เดินทางไปญี่ปุ่นกับ Sarah Witt และฟิล์ม LomoChrome Purple
Share Tweetช่างภาพ Sarah Witt พาเราไปสัมผัสการเดินทางครั้งล่าสุดของเธอที่ญี่ปุ่น ซึ่งเธอได้ทดลองใช้ฟิล์ม LomoChrome Purple ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเหนือจริง ราวกับฉากในภาพยนตร์ของ Miyazaki ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของการถ่ายภาพอนาล็อก Sarah จึงถ่ายทอดประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอผ่านฟิล์มตัวนี้
สวัสดี Sarah! อัปเดตเรื่องราวของคุณให้เราฟังหน่อย
สวัสดี Lomography ฉันดีใจมากที่ได้กลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่บทสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด ฉันยังคงเดินหน้าพัฒนางานถ่ายภาพของตัวเอง โดยแบ่งเวลาระหว่างงานที่ได้รับมอบหมายจากแบรนด์และสถาบันต่าง ๆ กับโปรเจกต์ส่วนตัว นอกจากนี้ ฉันยังได้ขยายงานด้านสื่อมวลชนมากขึ้น ผ่านการทำข่าวให้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่าง ๆ ซึ่งฉันต้องบอกเลยว่าฉันรักมิติใหม่นี้ของอาชีพตัวเอง งานแนวสารคดีทำให้ฉันรู้สึกว่าได้อยู่ท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญ และได้มีส่วนช่วยให้ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมที่ควรได้รับความสนใจถูกนำเสนอออกไป สิ่งนี้ให้ความหมายกับการทำงานของฉัน และทุกโปรเจกต์ใหม่ก็เหมือนการผจญภัย
ความรักของคุณที่มีต่อการถ่ายภาพฟิล์มเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และมันมีความหมายอย่างไรสำหรับคุณในวันนี้
ความหลงใหลในภาพถ่ายฟิล์มไม่เคยจางหายไปจากฉัน ฉันยังคงใช้ฟิล์มในการถ่ายภาพทุกโปรเจกต์ส่วนตัวและทุกการเดินทาง ความรักนี้ยิ่งมีความหมายมากขึ้นในปีนี้ ด้วยการก่อตั้ง Collectif Phosphore ร่วมกับ Matthieu Fares สถาปนิกและศิลปินเพื่อนร่วมงานของฉัน พวกเราเริ่มทำโปรเจกต์เกี่ยวกับปัญหาน้ำจืดบนเกาะเล็ก ๆ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถ่ายทำทั้งหมดด้วยฟิล์ม
สำหรับโปรเจกต์นี้ เราต้องส่งผลงานเป็นพอร์ตโฟลิโอฉบับพิมพ์ เราจึงล้างภาพสีทั้งหมดที่ห้องแลป Émulsion ในปารีส ฉันสนุกกับการกลับเข้าสู่ห้องมืดและใช้เวลาหลายชั่วโมงทดลองสิ่งต่าง ๆ นี่แหละคือความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของการถ่ายภาพฟิล์ม
นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้ทดลองใช้ฟิล์ม LomoChrome Purple คุณคิดอย่างไรกับผลลัพธ์ที่ได้ และคุณสนุกกับการใช้งานมันหรือไม่
การทดลองใช้ฟิล์ม LomoChrome Purple เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการถ่ายภาพเชิงทดลอง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใช้ฟิล์มประเภทนี้ สำหรับทริปญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม 2024 ฉันต้องการออกจากกรอบเดิม ๆ ทั้งในเรื่องขององค์ประกอบและสีสัน เพื่อท้าทายตัวเองให้ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ซึ่งฟิล์มตัวนี้เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบกับภาพฝันที่ฉันมีต่อญี่ปุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกของ Miyakaki
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างจากงานที่ฉันเคยทำโดยสิ้นเชิง และฉันสนุกมากกับการใช้มัน เพราะมันทำให้ฉันมองสิ่งรอบตัวในมุมมองใหม่ ราวกับได้ก้าวเข้าสู่มิติอื่น ภาพที่ได้มีความคาดไม่ถึงและไม่สามารถสร้างขึ้นได้ง่าย ๆ ในการปรับแต่งภายหลัง ฉันอยากลองใช้มันอีกครั้งสำหรับการถ่ายภาพเชิงทดลองอย่างเต็มที่ เพราะฟิล์มตัวนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลกและจักรวาลใหม่ ๆ อย่างแท้จริง!
คุณมีเคล็ดลับอะไรในการใช้ฟิล์มตัวนี้ที่อยากแบ่งปันกับเราไหม
ฉันคิดว่าฟิล์มนี้เหมาะกับฉากที่มีแสงสว่าง โดยเฉพาะกลางแจ้ง ตอนที่ฉันอยู่ญี่ปุ่น ฉันไม่ได้พกแฟลชไปด้วย แต่ฉันจินตนาการว่ามันน่าจะช่วยขับเน้นโทนสีม่วงให้ออกมาสวยงามยิ่งขึ้น!
คุณจินตนาการถึงซีรีส์ภาพถ่ายของคุณอย่างไร และคุณเตรียมตัวสำหรับการถ่ายภาพอย่างไร
เวลาฉันเดินทาง ฉันมักจะพกฟิล์มหลายประเภทไปด้วย และเลือกใช้ตามความรู้สึกที่สถานที่นั้นมอบให้ฉัน ตัวอย่างเช่น ในภูเขาของญี่ปุ่น ฉันเลือกใช้ LomoChrome Purple เพราะป่าอันกว้างใหญ่ที่มีแม่น้ำไหลผ่านทำให้ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่ลึกลับราวกับเทพนิยาย แต่เมื่อฉันถ่ายภาพในโตเกียว เมืองที่เต็มไปด้วยฝูงชน รถไฟใต้ดินที่แน่นขนัด และตึกระฟ้า ฉันเลือกใช้ฟิล์มขาวดำ เพราะนั่นคือภาพของเมืองที่ฉันจินตนาการไว้ในหัว
สำหรับโปรเจกต์ส่วนตัวหรือการถ่ายงาน ฉันมักจะวางแผนล่วงหน้าว่าต้องการสร้างจักรวาลแบบไหน ฉันจะเลือกใช้ฟิล์ม สีสัน และแสงเงาแบบเดียวกันตลอดทั้งซีรีส์ เพื่อให้บรรยากาศออกมาตรงกับภาพที่ฉันคิดไว้ และในขั้นตอนสุดท้าย ฉันจะคัดภาพที่มีสีโดดออกจากธีมหลักออกไป
ภาพโปรดของคุณคือภาพไหน และเพราะอะไร
ภาพที่ฉันชอบที่สุดในซีรีส์นี้คือภาพรถแท็กซี่สีดำที่จอดอยู่หน้าสถานี Mino-shi ที่จังหวัดกิฟุ ฉันรักความสงบที่ภาพนี้ถ่ายทอดออกมา มันสะท้อนถึงบรรยากาศเงียบสงบและเกือบจะลี้ลับของสถานที่นั้น ซึ่งแทบไม่มีผู้คนเลย นอกจากนี้ มันยังเป็นภาพเดียวที่ฉันเก็บไว้จากเมืองมิโนะ เมืองที่สร้างความประทับใจให้ฉันอย่างมาก
ที่มิโนะ ฉันได้ค้นพบกระบวนการทำกระดาษ Mino Washi ซึ่งเป็นกระดาษญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่สามารถนำมาใช้พิมพ์ภาพถ่ายได้ และสุดท้าย ฉันชอบแสงรั่วเล็ก ๆ ทางด้านซ้ายของภาพ มันเพิ่มเสน่ห์ให้กับภาพได้อย่างลงตัว
คุณเดินทางบ่อยมาก คุณเตรียมตัวสำหรับแต่ละทริปอย่างไร
ฉันชอบเดินทางแบบพกของให้น้อยที่สุด และไม่กำหนดแผนการเดินทางตายตัวมากเกินไป ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจแบบกะทันหันมาก จองตั๋วเพียงสองสัปดาห์ก่อนออกเดินทาง และทั้งทริปก็เป็นการด้นสดตามอารมณ์เป็นหลัก และที่สำคัญที่สุดคือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ… ฉันต้องรับมือกับทั้งคลื่นความร้อน แผ่นดินไหว และไต้ฝุ่น
จุดหมายปลายทางถัดไปที่เราจะได้เห็นจากการร่วมงานกันคือที่ไหน และมีสถานที่ในฝันที่คุณอยากไปไหม
Collectif Phosphore กำลังทำงานวิจัยแบบสหวิทยาการเกี่ยวกับเกาะเล็ก ๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้น มีโอกาสสูงมากที่คุณจะได้พบฉันในแถบนี้ จุดที่เรากำลังโฟกัสอยู่ตอนนี้คือหมู่เกาะ Aeolian ซึ่งเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่งซิซิลี และฉันคิดว่าในปี 2025 เราจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น
ส่วนจุดหมายในฝันของฉัน ถ้าให้เลือกแบบไม่ต้องคิดเลยก็คือแอลจีเรีย ฉันฝันอยากไปเยือน Kabylie หมู่บ้านของปู่ย่าตายาย ที่ซึ่งแม่ของฉันเคยใช้เวลาช่วงฤดูร้อนทั้งหมดของเธอในวัยเด็ก ทริปนี้คงเป็นการเดินทางที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของฉัน
คุณมีโปรเจกต์อื่น ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อยากแบ่งปันกับเราหรือไม่
คราวนี้เป็นโปรเจกต์ที่อยู่ใกล้บ้านมากขึ้น ฉันกำลังทำงานเกี่ยวกับแคว้นบาสก์ ซึ่งเป็นที่ที่ฉันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปี 2019 โปรเจกต์นี้พาฉันเดินทางไปทั่วทั้งภูมิภาค ทำให้ฉันได้ค้นพบวัฒนธรรมและดำดิ่งสู่ประวัติศาสตร์ของที่นี่อีกครั้ง ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันภาพแรกกับคุณเร็ว ๆ นี้
ขอขอบคุณ Sarah ที่มาร่วมพูดคุยกับเรา สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมของเธอได้ที่ Instagram
เขียนโดย alplvl เมื่อ 2025-02-13 ในหมวด #gear #ผู้คน #places
ไม่มีความคิดเห็น