ช่างภาพชาวฮ่องกง Calvin Fu ได้ทดลองใช้เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art เป็นครั้งแรก

Lomography ได้เปิดตัวเลนส์ตัวใหม่ล่าสุดที่ชื่อ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art ผ่าน Kickstarter ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งความพิเศษของเลนส์ตัวนี้คือเราได้รวมเอฟเฟกต์โบเก้ทั้งสามแบบไว้ในเลนส์ตัวเดียว ทั้ง Soft, Classic และ Bubble ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายสไตล์มากขึ้น และครั้งนี้เราได้ชวนช่างภาพชาวฮ่องกง Calvin Fu มาร่วมเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ทดลองใช้เลนส์ตัวนี้ด้วย ซึ่ง Calvin ได้นำเลนส์ตัวนี้ไปทดสอบถ่ายภาพตอนกลางคืน รวมทั้งเปรียบโบเก้ทั้งสามแบบให้ดูกันด้วยนะ มาติดตามชมภาพถ่ายของเขากันได้เลย!

• สวัสดี Calvin แนะนำตัวให้ชาวโลโม่รู้จักกันหน่อย

- สวัสดีทุกคน ผมชื่อ Calvin เป็นคนชอบถ่ายรูปและรับงานถ่ายรูปอิสระด้วย

• พอได้ลองใช้เลนส์ตัวนี้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

- ในฐานะคนใช้ Sony ที่ผ่านมาผมแอบเห็นว่า Lomography ทำเลนส์เมาท์ E น้อยลง พอมีเลนส์นี้ผมเลยใช้งานได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านอแดปเตอร์เลย สะดวกและน้ำหนักเบามาก

• คุณคุณสมบัติไหนของเลนส์ตัวนี้ที่ชอบมากที่สุด

- ผมชอบที่เลนส์สามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ และมีความยืดหยุ่นในการใช้เอฟเฟกต์ระดับหนึ่งเลย สามารถปรับใช้ได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แล้วก็พอเทียบกับเลนส์ Petzval 80.5 ที่ผมเคยใช้แล้ว ตัวนี้เบากว่ามากๆ

• ฟังก์ชั่นการควบคุมโบเก้ ช่วยในการถ่ายภาพพอร์เทรทของคุณอย่างไรบ้าง

- ถ้าทั่วๆ ไปเวลาอยากถ่ายภาพโบเก้แนวฟุ้งๆ เราจะทำได้แค่คุมเรื่องขนาดของโบเก้ หรือใช้เอฟเฟกต์ที่มากับเลนส์เท่านั้นเลย แต่เลนส์ตัวนี้ปรับให้มีตัวเลือกมากขึ้น แล้วก็เอฟเฟกต์แบบฟองสบูที่มีโบเก้ทรงกลม มีเอกลักษณ์มาก หาไม่ได้จากเลนส์ทั่วไป

• เลนส์ตัวนี้เหมาะกับการถ่ายภาพในสถานการณ์ไหน

- ช่วงเลนส์ 64 มม. แล้วก็การที่ควบคุมโบเก้ได้ เลนส์ตัวนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับการถ่ายภาพพอร์เทรทตอนกลางคืน โดยเฉพาะที่ที่มีไฟหลายๆ สี แล้วก็คุณสมบัติการควบคุมโก้ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นเลย

• ชอบเอฟเฟกต์โบเก้แบบไหนมากที่สุด

- ตรงๆ เลย ตอนแรกที่ลองใช้มันแยกเอฟเฟกต์ต่างๆ ยาก แต่หลังจากได้ลองผิดลองถูกพอสมควร ผมค่อยๆ แยกความต่างและเอกลักษณ์ของโบเก้แต่ละแบบได้ แล้วก็เห็นว่าแต่ละอันมีความละเอียดอ่อนที่ต่างกัน โหมดซอฟต์จะทำให้ภาพเบลอได้มากที่สุด ลองลงมาคือแบบฟองสบู่ ส่วนคลาสสิกภาพจะคมชัดมากที่สุด

พอเปรียบเทียบทั้งสามแบบแล้ว ผมประทับใจโหมดคลาสสิกมากที่สุด เพราะความคมชัดออกมาโดดเด่นมากตอนถ่ายภาพมุมกว้าง ส่วนโหมดซอฟต์ก็ให้ความนุ่มนวลที่น่าสนใจ และถ้าปรับรูรับแสงให้แคบลง อาจจะเหมาะกับการถ่ายภาพบางสไตล์ด้วย สำหรัลโหมดฟองสบู่จะเป็นเหมือนกึ่งกลางระหว่างคลาสสิกและซอฟต์ ทำให้สามารถถ่ายภาพที่มีเอกลักษณ์ และได้เอฟเฟกต์โบเก้ที่แตกต่างกันได้

• ภาพพอร์เทรทที่ดีเป็นอย่างไร และเลนส์ตัวนี้ทำให้ได้ภาพแบนั้นไหม

- ในฐานะที่ผมเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องความสนใจของแต่ละคนเป็นอันดับแรก และเคยรับงานถ่ายภาพอิสระมาบ้าง ผมว่าการถ่ายภาพพอร์เทรทที่ดีคือภาพที่นางแบบคนนั้นๆ ชอบ หรืออย่างน้อยก็ไม่คัดค้าน แล้วก็เลนส์ทั้งสามแบบมาพร้อมเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน ทำให้ง่ายต่อการเลือกโหมดที่เหมาะกับลักษณะและสิ่งแวดล้อมรอบๆ นางแบบ ซึ่งจะช่วยทำให้ภาพพอร์เทรทออกมาน่าพอใจได้

• คุณมีแพลนหรือโปรเจกต์การถ่ายภาพเพิ่มเติมในอนาคตไหม

- ผมยังไม่มีแพลนเพิ่มนะ แต่หวังว่าจะได้ลองถ่ายภาพที่เที่ยวอื่นๆ ในฮ่องกงที่ไม่เคยไป หรือไม่ก็ลองบางที่บ่อยๆ ขึ้น เพราะเป็นเมืองมีแสงไฟหลากหลายสีมาก รวมทั้งอาคารและวัตถุเก่าแก่ก็หาได้ยากแล้ว ผมเลยต้องการบันทึกภาพถ่ายเหล่านั้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art มาพร้อมเอฟเฟกต์โบเก้ที่โดดเด่น 3 แบบ: ซอฟต์โฟกัสนุ่มนวล, ฟุ้งๆ แบบคลาสสิก และฟองสบู่อันทรงพลัง ซึ่งเลนส์รุ่นนี้สามารถใช้งานได้กับกล้อง full-frame mirrorless มีให้เลือกระหว่างเมาท์ Sony E, Nikon Z และ Canon RF มาพร้อมสีทองเหลืองและสีดำอลูมิเนียมที่จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และความโดดเด่นให้กับกล้องของคุณ

สนับสนุนเลนส์รุ่นนี้ได้แล้ววันนี้ผ่านทาง Kickstarter.

และขอบคุณ Calvin ที่มาแบ่งปันภาพสวยๆ กับพวกเราด้วยนะ! สามารถติดตามผลงานของเขาเพิ่มเติมได้ที่ Instagram นี้เลย ซ ;)

เขียนโดย nikkicheung เมื่อ 2023-10-25 ในหมวด #gear