LomoShowcase: แฟชั่นพอร์เทรตในแบบของ "กลาง" (@paslln) กับเลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art
สำหรับ “กลาง” (@paslln) ช่างภาพแฟชั่นผู้หลงใหลในการถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ของมนุษย์ผ่านภาพถ่าย การถ่ายภาพไม่ใช่แค่การกดชัตเตอร์ แต่คือการสังเกต เรียนรู้ และเชื่อมโยงกับตัวแบบ จุดเริ่มต้นจากวิชาถ่ายภาพฟิล์มเมื่อปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ค่อย ๆ พาเขาก้าวเข้าสู่โลกของแฟชั่นและพอร์เทรตอย่างจริงจัง จนวันนี้เมื่อได้ลองใช้เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art ที่มาพร้อมเอฟเฟกต์โบเก้หลากหลาย ก็ยิ่งช่วยเติมเต็มสไตล์งานภาพของเขาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ในบทสัมภาษณ์นี้ เราจะได้ทำความรู้จักโลกของกลางให้ลึกขึ้น ผ่านมุมมอง ความคิด และภาพถ่ายที่มากกว่าแค่ความสวยงาม

แนะนำตัวและจุดเริ่มต้นในการถ่ายภาพ
สวัสดีครับ :) กลางครับ เป็นช่างภาพแฟชั่นครับ จุดเริ่มต้นในการถ่ายแบบจริง ๆ จังๆ เลย เริ่มมาจากช่วงเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรครับ พอดีตอนนั้นมีวิชาภาพถ่ายฟิล์มครับ เริ่มจากการเรียนรู้ถ่ายฟิล์มก่อน พอมาเรื่อย ๆ หลังจากนั้นก็ขยับขยายไปดิจิทัล ก็ยาวมาเลยครับ และด้วยความที่ตอนเด็ก ๆ ได้คลุกคลีอยู่กับคุณพ่อที่เป็นช่างภาพ ก็ทำให้เราได้รู้ ได้เห็น ซึมซับความสนใจมาด้วยครับ
ทำไมถึงเลือกทำงานสายแฟชั่นและพอร์เทรท เสน่ห์ของการถ่ายภาพแนวนี้คืออะไร
เสน่ห์ที่คิดว่าชอบเลย เป็นความรู้สึกที่เวลาได้ไปถ่ายแล้วประสบพบเจอกับผู้คน ได้เจอชุดที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ สิ่งเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจให้เราเสมอครับ หรือตอนถ่ายในมุมที่เราต้องหาความงามโดยธรรมชาติของคน ๆ นั้นออกมาและถ่ายทอด ก็เป็นฟีลลิ่งที่แฮปปี้ และเหมือนเราได้ค่อย ๆ ดู สังเกต และทำความรู้จักกับคน ๆ นั้นมากขึ้นด้วยครับ ผมจะชอบตรงที่เราได้ถ่ายคน คือเขามีความคิด อารมณ์ ความรู้สึกที่เฉพาะตัว ในส่วนนี้แหละครับจะชอบเป็นพิเศษเลย
ถ้ามีคำหนึ่งคำที่จะนิยามสไตล์การถ่ายภาพของคุณกลาง จะเลือกคำว่าอะไร
ขอนิยามว่าเป็นแบบสไตล์ผมเองละกันนะครับ คือ Individual Creative and Contemporary Art
เวลาเริ่มโปรเจกต์ถ่ายแฟชั่น การวางแผนและการเตรียมงานมีขั้นตอนยังไงบ้าง
เอาแบบภาพรวมคือดูวันเวลาที่จะถ่าย โลเคชั่นเป็นที่ไหน ถ้าเป็นการถ่ายแบบสตรีทก็ต้องดูว่าโลเคชั่นกับชุดมีความเหมาะสมกันไหม แนวทางคอนเซปต์อารมณ์ภาพที่อยากได้จะเป็นแบบไหน
ถ้าเป็นการถ่ายที่สตูดิโอก็คล้าย ๆ กันครับ และการเตรียมตัวสำหรับทีมงานและองค์ประกอบอื่นจะแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละงานนั้น ๆ ครับ
พูดถึงเซ็ตภาพล่าสุดกันบ้าง ภาพเหล่านี้มีคอนเซปต์หรือแนวคิดเบื้องหลังอะไรเป็นพิเศษไหม
จริง ๆ จะว่าไปก็คือ according to your style ก็ได้นะครับ เพราะตอนที่เลือกชุดของแบบ ผมก็ส่งโลเคชั่นที่จะถ่ายกันไปให้ แล้วก็บอกแบบว่า “จัดมาได้เลยตามสไตล์คุณเลย” ให้เขาได้ครีเอทเองตามนั้นเลยครับ คือผมมองว่าการให้เขาได้ครีเอทเอง หรืออิมโพรไวส์หน้างานด้วย จะทำให้สไตล์และตัวตนของเขาออกมาด้วยหนะครับ สำหรับผมว่านี่แหละครับคือสิ่งที่พิเศษเลย
จากภาพทั้งหมด ชอบภาพไหนมากที่สุด เพราะอะไร

รูปขาวดำที่เป็นผู้หญิงผมลอนนั่งอยู่ แล้วข้างหลังเป็นป่าไม้ธรรมชาติหนะครับ เพราะภาพนี้ดูแล้วรู้สึกที่สุดครับ และผมมองว่าภาพนี้มีความ timeless สูงด้วย
ปกติคุณกลางเลือกใช้เลนส์แบบไหนเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับอะไรเวลาตัดสินใจเลือกใช้เลนส์
ปกติเลือกใช้เลนส์คาแรกเตอร์ที่สามารถยืดหยุ่นได้สูงครับ ใช้ได้กับหลาย ๆ สถานการณ์ครับ ซึ่งเลนส์ Nour Triplet มีถึง 3 เอฟเฟกต์ให้ปรับ เหมาะกับหลาย ๆ สถานการณ์ถือว่าเข้ามือเลยครับ
พอได้ลองใช้งานเลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art แล้วรู้สึกอย่างไร
ความรู้สึกแรกจากการถ่ายคือว้าวมาก โดยความที่เป็นคนชอบใช้เลนส์แมนนวลโฟกัสอยู่แล้ว พอมีให้ปรับเอฟเฟกต์ก็ทำให้เราสนุกและครีเอทกับการถ่ายได้มากขึ้น แถมยังได้ฟิลลิ่งที่ทำให้เราคอยบรรจงมากขึ้นต่อภาพ ๆ นั้นได้อย่างดีเลยครับ
เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art จะมี 3 เอฟเฟกต์ ทั้ง Classic, Bubble และ Soft Focus ได้ลองใช้ครบทุกแบบไหม ชอบแบบไหนมากที่สุด
ได้ลองใช้ครบทุกแบบเลยครับ ชอบแบบ bubble มากที่สุดเลยครับ
ถ้าคนรุ่นใหม่อยากเริ่มต้นเข้าวงการถ่ายภาพแฟชั่น มีคำแนะนำอะไรอยากฝากไหม
ก็จะแนะนำว่า ศึกษาเรียนรู้ถ่ายทำเยอะ ๆ ดูงานศิลปะบ่อย ๆ ศึกษาจากศิลปินที่ชอบก็ได้ บางครั้งแรงบันดาลใจก็อาจจะไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลครับ อาจจะอยู่จากตอนที่เราใช้ชีวิตหนะครับ
ขอบคุณกลางที่มาแบ่งปันประสบการณ์การใช้เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art กับพวกเรา ติดตามผลงานของเขาเพิ่มเติมได้ผ่านทาง Instagram
ไม่มีความคิดเห็น