Solo Wedding Project: คุณเบิร์ด (Film Full Photo) กับการถ่ายภาพผ่านเลนส์กล้อง Lomomatic 110

ในมุมมองของคุณเบิร์ด เจ้าของเพจ Film Full Photo การถ่ายภาพฟิล์มไม่ใช่แค่การบันทึกภาพ แต่เป็นการเล่าเรื่องราวผ่านสายตาและอารมณ์ของคนถ่าย และครั้งนี้คุณเบิร์ดได้ถ่ายทอดเรื่องราวจากกล้อง Lomomatic 110 ในคอนเซปต์ Solo Wedding ที่คุณเบิร์ดตั้งใจเริ่มต้นขึ้น เป็นการส่งต่อแนวคิดว่า “ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่เริ่มต้นได้จากตัวเราเอง” ภาพถ่ายทุกใบที่ถ่ายทอดผ่านเลนส์กล้องตัวนี้ ไม่เพียงแต่เก็บช่วงเวลาอันแสนพิเศษ แต่ยังสะท้อนถึงหัวใจของการสร้างสรรค์ที่งดงามในแบบฉบับของคุณเบิร์ดได้อย่างแท้จริง

Solo Wedding Project by Film Full Photo

ถ้าคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพ มาติดตามอ่านบทความนี้ และชมภาพถ่ายสวย ๆ จากคุณเบิร์ดกันได้เลย! 💍👰🏻


จุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพและกล้องตัวแรกในชีวิต

เริ่มต้นจากสมัยปวช. เราเรียนสาขาออกแบบ แล้วมีเรียนถ่ายภาพเป็นวิชาเสริม ตอนนั้นใช้กล้อง Nikon FM2 ล้างอัดภาพในห้องมืดกับเพื่อน ๆ ก็สนุกดี แต่ยังไม่ได้รู้สึกชอบเป็นพิเศษ เพราะตอนนั้นอยากเป็นมัณฑนากร เลยชอบการเขียน perspective และลงสีน้ำมากกว่า กล้องตัวแรกที่ใช้ก็คือ Nikon FM2

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

พอได้ทดลองใช้กล้อง Lomomatic 110 เป็นครั้งแรกแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

"ทำไมหน้าตามันน่ารักขนาดนี้" นั่นคือความรู้สึกแรกที่ได้เห็นได้สัมผัส กลักฟิล์มก็น่ารัก ทุกอย่างดูน่าสนุก นึกถึงของเล่นเลโก้สมัยเด็ก ๆ ประมาณนั้นเลย ม้วนแรกที่ถ่ายยอมรับว่าแอบยากนิดนึง ด้วยความไม่ชินกับกล้องแบบกะระยะ แต่พอถ่ายม้วนที่ 2 ม้วนที่ 3 สนุกมากขึ้น กลายเป็นว่าการกดชัตเตอร์แบบนี้ เร็ว ได้จังหวะตามที่ต้องการมาก

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

อยากให้เล่าแนวคิดของชุดภาพที่ถ่ายมา

“Solo wedding” เป็นโปรเจกต์ที่เราทำสนุก ๆ ได้ไอเดียมาจากงานถ่ายภาพชาวญี่ปุ่น ที่สาว ๆ นิยมใส่ชุดแต่งงานมาถ่ายรูปกันโดยไม่มีเจ้าบ่าว สื่อถึงความสุขและอิสระภาพในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะมีคนรักหรือไม่ จะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน ก็สามารถใส่ชุดเจ้าสาวสวย ๆ ถ่ายรูปได้

Solo Wedding Project by Film Full Photo

เราเริ่มต้นโปรเจกต์นี้แบบเรียบง่ายด้วยการ “ถ่ายภาพตัวเองในชุดเจ้าสาวด้วยกล้องฟิล์ม” โดยใส่ชุดวินเทจของร้านเราเอง ถ่ายผ่านกระจกเงาในหัองแต่งตัว

ในภาพเป็นภาพเจ้าสาวที่เล่นน้ำทะเลโดยไม่มีเข้าบ่าว จริง ๆ แล้วอยากสื่อถึงอะไรเป็นพิเศษไหม

แอบเห็นสาว ๆ หลายคนเวลาดูรูปพรีเวดดิ้งสวย ๆ แล้วคอมเมนต์ว่า "อยากถ่ายแบบนี้บ้างจังแต่ไม่มีแฟน" หรือไม่ก็ "ถ้าแต่งงานจะต้องถ่ายภาพกับช่างภาพคนนี้ให้ได้" ฯลฯ เราแค่รู้สึกว่า เห้ย หรือจริง ๆ ไม่ต้องรอใครมาพร้อมถ่ายกับเราก็ได้นะ มันเป็นเชิงประโยคคำถาม แล้วก็เอาคำถามนั้นมาลองลงมือทำ และเราก็ชอบในผลลัพธ์ของมันนะ

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

ทำไมถึงเลือกตัดสินใจใช้ฉากหลังเป็นทะเล

ด้วยความที่นางแบบ (น้องตูน) เป็นคนน่ารักซน ๆ เป็นนักกิจกรรมคนนึงเลย เราเลยคิดว่าถ้าเอากิจกรรมความชอบของน้อง มาผสมในงาน ก็น่าจะได้ความเป็นตัวตนของน้องดี แล้ววิวทะเลกับถนนยาวเรียบหาดที่นี่ (ตาลสามต้น ปราณบุรี) ก็สวยมากจริง ๆ ภาพที่น้องหยิบเซิร์ฟสเก็ตออกมาเล่นอย่างคล่องแคล่ว ยังติดตาเราอยู่เลย มันน่ารักมาก เหมาะกับวิวทะเลมาก ๆ ด้วย

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

ในฐานะที่เป็นช่างภาพที่ผ่านงาน pre-wedding มาเยอะ มีเทคนิคพิเศษในการช่วยให้คู่บ่าวสาวรู้สึกผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติในภาพไหม

ทุกอย่างควรเริ่มจากตัวตน ความชอบของลูกค้า การได้เป็นตัวเอง บวกกับบรรยากาศการออกกองที่เป็นกันเอง สบาย ๆ ก็ช่วยให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

นอกจากกล้อง Lomomatic 110 แล้ว เห็นว่าคุณเบิร์ดมีการใช้กล้อง Lomography รุ่นอื่น ๆ ด้วย ทำไมถึงเลือกใช้กล้อง Lomography คิดว่าแตกต่างจากกล้องฟิล์มทั่วไปไหม

เรามีกล้อง Sprocket Rocket ที่ใช้เพราะชอบความสแกนติดหนามเตย เพราะเราเป็นคนชอบหนามเตยมาก มันได้ฟีลฟิล์ม ๆ ดี และอีกตัวคือ LomoKino ตอนนี้เราเริ่มเอามาใช้ผสมในงานวีดีโอวินเทจที่ทำอยู่ เพื่อเพิ่มลูกเล่นความน่ารักและมู้ดคลาสสิกแบบฟิล์ม

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

สำหรับเรา Lomo คือความน่ารักเฉพาะตัว ช่วยเติมเต็มฟิลลิ่งในงานให้สมบูรณ์ขึ้น

การถ่ายภาพฟิล์มด้วยกล้อง Lomography เปลี่ยนมุมมองหรือวิธีคิดในการถ่ายภาพไหม

กล้องก็เหมือนคน บางวันอยากจริงจัง บางวันอยากสนุกชิล ๆ การเลือกหยิบกล้องสักตัวออกมาใช้ จึงขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่อยากได้ จากเอกลักษณ์ของกล้องแต่ละตัวนั้น และ Lomography ช่วยเพิ่มมุมมองที่แปลกตาขึ้น เป็นสีสันและความสนุกในการทำงาน

Film: Tiger 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

ถ้าให้เลือกช่วงเวลาตั้งแต่เช้าถึงเย็นในการถ่ายภาพ pre-wedding ด้วยฟิล์ม ควรเป็นช่วงเวลาไหน

ฟิล์มถ่ายได้แทบจะทุกช่วงเวลา ในงาน pre-wedding เราเน้นที่ความลงตัวของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากทุกคนชอบที่จะตื่นสาย ๆ นอนให้เต็มอิ่ม และมาสนุกกันกับแสงช่วงบ่ายเย็นจนถึงพลบค่ำก็พอแล้วค่ะ

Film: Lobster Redscale 110 ISO 200 | Model: @cartuneishappyverygoodgirl

ถ้าให้เลือก 1 ข้อจากกฎทองของ Lomography คิดว่าเหมาะกับข้อไหนมากที่สุด

ชอบหลายข้อเลย แต่ถ้าต้องเลือกขอเป็นข้อ 1 (พกกล้องไปด้วยทุกที่ทุกเวลา) ไม่ว่าจะเป็นวันถ่ายงาน หรือวันพักผ่อน พกกล้องติดตัวไว้อุ่นใจที่สุด เพราะแต่ละช่วงเวลามันย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว

สุดท้ายแล้วฝากโปรเจกต์ที่จะมีเพิ่มเติมได้เลย

ฝากโปรเจกต์ Solo wedding ไว้ด้วยนะคะ เรายังคงทำต่อเนื่องและเปลี่ยนธีมคอนเซปต์ไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่ซ้ำ รอดูภาพสนุก ๆ ในเซตต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


ขอบคุณคุณเบิร์ดที่มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวกับพวกเรา ถ้าใครอยากติดตามการถ่ายภาพฟิล์มในมุมมองใหม่ ๆ หรือแรงบันดาลใจจากโปรเจกต์ Solo Wedding สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมจากคุณเบิร์ดได้ที่เพจ Facebook และ Instagram

เขียนโดย aomschll เมื่อ 2024-11-29 ในหมวด

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ