ช่างภาพชาวฮ่องกง "Kiu" ถ่ายภาพพอร์เพรทในสไตล์ที่หลากหลายผ่านฟิล์ม Lomography 35 มม.
Share Tweetเราได้เชิญช่างภาพพอร์เทรท, ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักเต้นสตรีทจากฮ่องกงอย่าง Kiu มารวมใช้ฟิล์มของเรา โดยฟิล์มทั้งสามม้วนที่เธอในการถ่ายภาพครั้งนี้ มีตั้งแต่ LomoChrome Metropolis 35 มม. , LomoChrome Turquoise 35 มม. , และฟิล์ม Lomography ISO 400 Color Negative ซึ่ง Kui ถ่ายภาพด้วยธีมที่แตกต่างกัน และบันทึกเรื่องราวชีวิตประจำวันของเธอในหลายบทบาท รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงแรงบันดาลใจและความเชื่อมโยงระหว่างตัวตนที่แตกต่างกันของเธอด้วย มาชมผลงานของเธอกัน!
สวัสดีและยินดีต้อนรับสู่ Lomography Online Magazine! รบกวนแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักหน่อยค่ะ
สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อ Kui ค่ะ ฉันเป็นช่างภาพพอร์เทรท ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักเต้นสตรีท ฉันมักจะสร้างความขัดแย้งในการทำงานของตัวเองอยู่เสมอ อย่างเช่นการถ่ายภาพขาวดำแต่ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส หรือการศึกษาภาพยนตร์แนวศิลปะปรัชญา แต่ก็ชอบดูหนัง Marvel ด้วยเช่นกัน ฉันเป็นคนที่เปิดรับทุกอย่างและอ่อนไหวค่ะ!
คุณเริ่มถ่ายภาพตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ฉันเรียนวิชาที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ตอนนั้นพ่อของฉันให้กล้อง DSLR มาเพื่อฝึกฝน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันได้สำรวจความเป็นไปได้ของการถ่ายภาพ ในช่วงนั้น ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการถ่ายภาพ แค่ใช้โหมดอัตโนมัติของกล้องเพื่อถ่ายรูปเท่านั้น ฉันยังชวนเพื่อน ๆ หลายคนมาถ่ายภาพแบบสุ่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกถึงความสุขของการถ่ายภาพและได้เรียนรู้ว่าการถ่ายภาพคือ "ดวงตาของคุณ"
อธิบายสไตล์การถ่ายภาพของคุณในสามคำ
นุ่มนวล เข้มแข็ง และเป็นจริง
ครั้งนี้คุณถ่ายภาพด้วยฟิล์มของเราสามรุ่น อยากให้คุณเล่าประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยฟิล์มเหล่านี้หน่อยค่ะ
ฉันได้รับฟิล์ม LomoChrome Metropolis, LomoChrome Turquoise และฟิล์ม Lomography ISO 400 Color Negative ซึ่งแต่ละม้วนก็มีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
LomoChrome Metropolis เป็นฟิล์มที่มีโทนสีเย็น ดังนั้นฉันจึงขอให้แบบของฉัน Hilary (@hilaryheihei) มาถ่ายภาพแฟชั่นกับฉัน ฉันชอบทุกอย่างในยุค 1990 (ภาพยนตร์ / แฟชั่น) ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจถ่ายภาพที่โรงแรมเก่าแห่งหนึ่งในฮ่องกง เนื่องจากการตกแต่งและการออกแบบของโรงแรมมีสไตล์วินเทจ และตัวนางแบบเองมีไวบ์ที่เข้ากับมัน ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับธีมของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับธีมได้ดียิ่งขึ้น ฉันได้เตรียมมู๊ดและการโพสต์ท่าที่เป็นแนวทางเพื่อพูดคุยกับ Hilary ในระหว่างการถ่ายทำ นอกจากการแต่งหน้าและเครื่องแต่งกายแล้ว ฉันคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดของโปรเจกต์นี้คือการคิดท่าทางที่เหมาะสมกับแบบ ดังนั้น ฉันจึงชอบกระบวนการค้นหาว่าเราจะจัดตำแหน่งร่างกายของแบบในระหว่างการถ่ายทำได้อย่างไร
Lomography ISO 400 Color Negative เป็นฟิล์มที่มีโทนสีอุ่นคลาสสิก ซึ่งฉันชอบใช้ในการบันทึกชีวิตประจำวันของตัวเอง ฉันเห็นช่างภาพชายหลายคนใช้ฟิล์มในการถ่ายภาพชีวิตประจำวันของแฟนสาวของพวกเขา ดังนั้นฉันจึงอยากทำเวอร์ชันของผู้หญิง! ตอนถ่ายสนุกมาก เพราะคุณสามารถบันทึกพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ และอารมณ์ของแฟนของคุณได้ ช่วงเวลานั้นสำคัญมากสำหรับการถ่ายทำประเภทนี้ แต่บางครั้งคุณอาจพลาดอารมณ์ในช่วงเวลาที่คุณหยิบกล้องขึ้นมาเหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับโชคทั้งหมด!
LomoChrome Turquoise เป็นฟิล์มที่ฉันเห็นมานาน ก่อนที่ฉันจะได้รับมัน ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้มันในการถ่ายภาพที่มีการเปรียบเทียบที่ชัดเจน เช่น ถนนเงียบสงบและฉากงานปาร์ตี้ที่ยุ่งเหยิง เนื่องจากฟิล์มนี้จะปรับสีให้เป็นโทนที่ไม่ใกล้เคียงกับสีดั้งเดิม ฉันต้องการสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงของสีในสองฉากที่แตกต่างกัน ฉันคิดว่ามันนำมาซึ่งความประหลาดใจ
คุณคุ้นเคยกับการถ่ายภาพแบบดิจิทัลมากกว่า พอได้ถ่ายภาพฟิล์มแล้วรู้สึกอย่างไนบ้าง
เนื่องจากการทำงานของฉัน ฉันใช้กล้องดิจิทัลมากกว่า ในการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ สิ่งที่เราต้องการคือความแม่นยำและความสมบูรณ์แบบ แต่การถ่ายฟิล์มเป็นการเดินทางที่สนุก ฉันไม่สามารถมั่นใจได้ว่าภาพจะออกมาเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อม แสง คุณภาพของกล้อง และสีของฟิล์ม ล้วนส่งผลต่อภาพของฉันได้ การถ่ายฟิล์มต้องใช้ความกล้าและเจอกับความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง ฉันเชื่อว่าช่วงเวลาที่คุณกดชัตเตอร์ ถือว่ามันดีแล้ว บางครั้งช่างภาพบางคนอาจจะถ่ายภาพทุกเฟรมอย่างรอบคอบ แต่ฉันชอบใช้สัญชาตญาณ ถ้าฉันรู้สึกว่ามันถูกต้องในขณะนั้น ฉันจะบันทึกช่วงเวลานั้นไว้ มันเป็นสิ่งที่โรแมนติกและสวยงามมาก!
คุณมีภาพโปรดในการถ่ายภาพครั้งนี้ไหม
ฉันรักภาพทุกภาพที่ถ่ายกับ Hilary แต่ภาพนี้เป็นภาพโปรดของฉันค่ะ
แม้ว่าการย้อนแสงจะเข้มมากและส่องตรงไปที่แบบ แต่ก็สร้างความรู้สึกที่ลึกลับและเต็มไปด้วยความหวัง ฉันชอบถ่ายภาพด้านข้างของผู้คน เพราะมันเป็นวิธีที่น่าสนใจในการมองเห็นดวงตาของพวกเขา บางครั้งคุณก็จะได้เห็นถึงจิตใจภายในของแบบ
คุณเป็นช่างภาพ ผู้กำกับ และนักเต้น การมีหน้าที่หลายอย่างนี้ส่งผลต่อผลงานของคุณอย่างไรบ้าง
การเต้นรำคือชีวิตของฉัน การถ่ายภาพคือความหลงใหลของฉัน และการกำกับคืออาชีพของฉัน ทั้งสามอย่างนี้ได้หล่อหลอมวิสัยทัศน์และความเข้าใจเกี่ยวกับตัวตนที่ฉันต้องการเป็น และได้มีอิทธิพล รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจซึ่งกันและกันอยู่เสมอ
เนื่องจากฉันเป็นนักเต้น ฉันมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการใช้ร่างกายในกิจวัตรประจำวันของฉัน ดังนั้นมันจึงทำให้ฉันจินตนาการได้ง่ายขึ้นว่าท่าทางไหนที่แบบจะดูดีในการถ่ายภาพ มันช่วยให้ฉันสำรวจความเป็นไปได้ทางภาพต่าง ๆ โดยปกติแล้วฉันจะสื่อสารกับแบบล่วงหน้าเกี่ยวกับความรู้สึกที่ฉันต้องการถ่ายทอด มันอาจจะเป็นการเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหว เซ็กซี่ ไตร่ตรอง หรือเศร้า ร่างกายจะต้องเคลื่อนไหวให้เข้ากับอารมณ์ที่แตกต่างกัน อาจจะเป็นความคิดเหล่านี้ที่ได้มาจากการเต้น
ในฐานะผู้กำกับวิดีโอ ฉันต้องดูแลหลายสิ่งหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการสื่อสารให้ชัดเจนกับแบบเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันต้องการ บทบาทนี้ได้สอนให้ฉันสื่อสารและร่วมมือกับผู้คน ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่ควรจะเข้มงวดเกินไปในการให้คำแนะนำ แต่ควรทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยต่อหน้ากล้อง กระบวนการนี้ต้องเรียนรู้ค่ะ
คุณถ่ายภาพพอร์เทรทเป็นหลัก อะไรที่ทำให้คุณสนใจในพอร์เทรท
แม้ว่าฉันต้องการเรียนในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น แต่ฉันเลือกที่จะศึกษาโทรทัศน์และภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัย นั่นคือเหตุผลที่ฉันสนใจในการถ่ายภาพแฟชั่นอยู่เสมอ ในตอนนั้น ฉันสนใจที่จะดูคอลเล็กชันของ YSL, CHANEL และ CELINE ในทุกฤดูกาลใหม่ เพราะสามแบรนด์นี้มีสไตล์ที่เป็นกลาง ไม่มีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและเป็นผู้หญิง แต่กลับมีความแข็งแกร่งเล็กน้อย ดังนั้นแบรนด์เหล่านี้จึงมักจะมองหานางแบบที่เป็นสมดุลและเรียบง่าย ฉากการถ่ายทำ รวมถึงการจัดแสงของพวกเขาก็เรียบง่ายและสะอาดมากเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ทุกอย่างถูกรวมเข้ากับความรู้สึกที่เย็นและลึกลับ ฉันไม่รู้เรื่องแฟชั่นมากนัก แต่ภาพที่ฉันชอบในตอนนั้นกลับกลายเป็นทิศทางที่ฉันกำลังมุ่งไปในด้านการถ่ายภาพ
ดังนั้นฉันจึงมักจะชวนสาว ๆ ที่มีลุคที่มาความเป็นกลางมาถ่ายภาพกับฉัน โดยผ่านการเลือกเสื้อผ้า การแต่งหน้า และการจัดแต่งทรงผม ฉันพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่งที่ฉันต้องการ การถ่ายภาพพอร์เทรททำให้ฉันเข้าใจมุมมองที่แตกต่างกันของผู้คน เช่น บางคนมีนิสัยชอบเข้าสังคม บางคนก็ขี้อาย เนื่องจากพวกเขาคือคนที่ถูกถ่ายภาพ ฉันจึงต้องการให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในระหว่างการถ่ายทำ เท่านั้นจึงจะทำให้ฉันสามารถแสดงถึงจิตใจภายในหรือด้านอื่น ๆ ของพวกเขาได้ นี่ก็เป็นความพึงพอใจที่การถ่ายภาพมอบให้ฉันค่ะ
คุณใช้เวลาเตรียมตัวสำหรับการถ่ายภาพนานแค่ไหนคะ
ในการเตรียมตัวสำหรับการถ่ายทำแบบทั่วไปหรือแฟชั่น เรามักจะพูดคุยเกี่ยวกับธีมการถ่ายทำกับสไตลิสต์หรือทีมคอนเทนต์ ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ พวกเขาจะกำหนดธีมทันทีแล้วหานางแบบและสถานที่ที่เหมาะสม สำหรับเวลาเตรียมตัว โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณสองถึงสามสัปดาห์ก่อนการถ่ายทำ
นอกจากนี้ ฉันยังมีงานถ่ายภาพเกี่ยวกับกิจกรรมการแต่งหน้า สำหรับงานประเภทนี้ ฉันมักจะแจ้งแขกเกี่ยวกับสถานที่ ธีม และภาพรวมประมาณสามถึงสี่สัปดาห์ก่อนการถ่ายทำ หลังจากนั้นก็จะเป็นการจัดกระเป๋าเตรียมพร้อมก่อนวันถ่ายทำ สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกโชคดีคือ ลูกค้าที่ร่วมงานกับฉันในขณะนี้ต่างแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจและความเคารพในตัวฉันเสมอ นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก: ลูกค้าเชื่อในรสนิยมของคุณ และมอบอิสระให้คุณทำงานได้ในระดับหนึ่งค่ะ
ความหลงใหลในการถ่ายภาพของคุณเปลี่ยนไปเมื่อมันกลายเป็นอาชีพหรือไม่
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุดสำหรับฉัน ฉันสามารถเปลี่ยนงานอดิเรกที่ฉันชื่นชอบให้เป็นอาชีพได้ แม้ว่ายังมีทักษะอีกมากมายที่ต้องพัฒนา (ฉันอิจฉาช่างภาพที่มีทักษะสูงและอุปกรณ์มากมาย) แต่ฉันรู้สึกขอบคุณที่การถ่ายภาพกลายเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของฉัน ในตอนนี้ ฉันขอบอกว่าความหลงใหลของฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ!
มีโปรเจกต์การถ่ายภาพอะไรในอนาคตอีกไหมคะ
ฉันอยากจะถ่ายภาพวัตถุที่มีแนวคิดแทนที่จะเป็นพอร์เทรท ฉันไม่เก่งในการถ่ายภาพวัตถุเลย แต่จะพยายามไปในทิศทางนั้น ฉันหวังว่าปีหน้า ฉันจะสามารถเตรียมงานนิทรรศการภาพถ่ายที่มีธีมของตัวเองได้ ฉันต้องการลองทำโปรเจกต์ของตัวเองจริง ๆ โดยที่ไม่มีเรื่องการขายเข้ามาเกี่ยวข้อง แค่ถ่ายสิ่งที่ฉันชอบและแชร์ให้กับผู้อื่น ในฐานะมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและมีความกระหาย ฉันรู้สึกว่ายังไม่มีเวลาทำ แต่ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้นค่ะ!
ขอบคุณ Kiu ที่มาแบ่งปันเรื่องราวกับเรา ติดตามผลงานของเธอเพิ่มเติมผ่านทาง Instagram
ไม่มีความคิดเห็น