LomoShowcase: สัมผัสความสวยงามสุดคลาสสิกจากเลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art ผ่านมุมมองของคุณนิคกี้ (Nicky Only FILM)
Share Tweetวันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับคุณนิคกี้ เจ้าของเพจ Nicky Only FILM ช่างภาพที่หลงใหลการถ่ายภาพมานานกว่า 9 ปี เขาเริ่มต้นจากความชื่นชอบในถ่ายภาพและค้นพบสไตล์ของตัวเองผ่านการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มและเลนส์มือหมุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในบทสัมภาษณ์นี้ คุณนิคกี้จะมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้จากการใช้เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art รวมถึงการเปลี่ยนแปลงจากการถ่ายภาพแนวอื่น ๆ มาสู่การถ่ายพอร์เทรท และความหลงใหลในโบเก้ที่ทำให้ภาพถ่ายของเขาเต็มไปด้วยความสวยงามที่ไม่ซ้ำใคร
สวัสดีค่ะคุณนิคกี้ ช่วยแนะนำตัวให้ชาวโลโม่รู้จักหน่อยค่ะ
ผมชื่อ นิคกี้ เป็นช่างภาพสมัครเล่นคนหนึ่งครับ เรียนมาด้านวิทยาศาสตร์และการบริหาร แต่เดิมแล้วชอบถ่ายภาพครับ สมัยมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยก็อยู่ในชมรมถ่ายภาพมาโดยตลอด พอต้องทำงานก็ไม่ได้ถ่ายภาพอีกเลย จนเมื่อประมาณ 9 ปีก่อนได้มีโอกาสกลับมาถ่ายภาพอีกครั้งหนึ่ง
เริ่มต้นถ่ายภาพและเปิดเพจ Nicky Only FILM ได้อย่างไรคะ
น่าจะเมื่อปี 2017 ตอนนั้นด้วยอายุที่มากขึ้น บอกตัวเองว่าต้องมองหางานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข ก็ได้ลองทำอยู่หลายอย่างทั้งตีกอล์ฟ เล่นกีฬาหลากหลาย แต่สุดท้ายพบว่าการถ่ายภาพคือความสุขที่พอเหมาะกับตัวเอง ช่วงแรกก็เริ่มจากการถ่ายแลนด์สเคปกับสตรีทก่อน แต่ก็รู้สึกว่าด้วยภาระงานและเวลาที่จำกัด ก็เลยลองเปลี่ยนมาถ่ายพอร์เทรทดู ซึ่งก็ตอบโจทย์ ได้เจอเพื่อน ๆ พี่น้อง ๆ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันสนุกดี ได้สร้างเพจขึ้นมาชื่อ Nicky19 Photo Gallery ซึ่งตั้งใจเอาไว้เก็บผลงานที่ถ่ายของตนเอง
เวลาผ่านมาหลายปี ผมรู้สึกถึงความชอบเฉพาะทางที่ชัดเจนขึ้นว่าส่วนตัวเป็นคนชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม และชอบถ่ายภาพด้วยเลนส์มือหมุนที่มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน โดยภาพถ่ายที่ชอบมักจะมีมิติของภาพ โทนสีเฉพาะ และเล่าเรื่องที่ต้องการได้มากกว่า จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเพจมาเป็น Nicky Only Film เพื่อให้ตรงกับแนวทางการถ่ายภาพของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายแต่ฟิล์มร้อยเปอร์เซ็นต์น่ะครับ ฟิล์มมันแพง ผมก็จะถ่ายด้วยเลนส์มือหมุนผ่านกล้อง DSLR หรือ Mirrorless บ้าง ซึ่งก็ให้ความสวยงาม และตอบโจทย์แต่ละคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ได้ดี
คุณนิคกี้ได้นำเลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art ไปถ่ายอะไรมาบ้างคะ ก่อนไปถ่ายได้มีการวางคอนเซ็ปต์ล่วงหน้าไหมคะ
ช่วงที่ได้เลนส์ Nour Triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art มาก็เริ่มเรียนรู้สร้างความคุ้นเคยก่อน ถ่ายต้นไม้ สิ่งต่าง ๆ รอบบ้านไปก่อน พกผ่านไปถ่ายตามสถานที่ต่าง ๆ มีการจัดไฟในบ้านลองถ่าย ลองเล่นเอฟเฟกต์โบเก้จนเริ่มรู้สึกถึงคาแรกเตอร์ของเลนส์ โดยเฉพาะโบเก้ในแบบต่าง ๆ ที่มีความชัดเจนและเฉพาะตัว จึงเริ่มวางคอนเซ็ปต์การถ่ายภาพบุคคลโดยมีเงื่อนไขคือขณะทดลองเป็นช่วงฤดูฝน โอกาสน้อยมากในได้แสงธรรมชาติ ผมจึงวางแผนเป็น 2 คอนเซ็ปต์ แบ่งเป็นการถ่ายภาพในสตูดิโอด้วยแสงประดิษฐ์ในช่วงกลางวัน และ night street portrait ซึ่งคอนเซ็ปต์แรกเป็นการทดลองสกรีนโทนของแบบ สีสัน และความชัดลึกชัดตื้นของเลนส์ ส่วนคอนเซ็ปต์ที่สองจะเน้นการให้โบเก้ของเลนส์ ซึ่งทั้งสองคอนเซ็ปต์ส่วนตัวรู้สึกชอบและตอบโจทย์ที่คิดไว้
พอได้ลองใช้เลนส์รุ่นนี้ครั้งแรกแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ
ส่วนตัวติดตาม Lomography มานานแล้ว เคยเห็นเลนส์ตัวนี้ในภาพ แต่ได้มาสัมผัสครั้งแรก มันให้อารมณ์ Classic & Luxury มาก ด้วยความเป็นโลหะกับดีไซน์ที่มีความย้อนยุค แค่ห้อยคอก็มีคนมอง และมาถามแล้วว่าเลนส์อะไรพี่สวยจัง อันนี้เกิดขึ้นจริง และไม่ใช่แค่คนสองคน แต่เป็นคนส่วนใหญ่ที่ได้ถ่ายภาพด้วยกัน
สำหรับการใช้งาน ช่วงแรกอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับเลนส์บ้าง โดยเฉพาะวงแหวนโฟกัสที่มาอยู่ในตำแหน่งท้ายเลนส์ แต่พอใช้งานจนคุ้นเคยก็พบว่าผมกลับชอบความหนืดนิด ๆ ของมัน เมื่อใช้ร่วมกับ Peaking ของกล้องดิจิทัล มันทำให้โฟกัสง่ายขึ้นมาก และเมื่อโฟกัสแล้วเราขยับมือไปกระบอกเลนส์ในตำแหน่งพร้อมถ่าย มันก็จะไม่รบกวนโฟกัสที่เราหมุนไว้ อันนี้ทำให้การถ่ายภาพสะดวกและแม่นยำขึ้นมาก สุดท้ายเรื่องสีสันและคาแรกเตอร์ของภาพที่ได้ มันให้อารมณ์ที่ผมชอบ ความชัดเจน และความอิ่มสีที่พอเหมาะ ทำให้การจบหลังกล้องไม่ใช่เรื่องยาก และการนำภาพไปทำโทนต่อนั้น ยิ่งส่งเสริมให้ภาพแสดงคาแรกเตอร์ของเลนส์ได้ดี
หลังจากได้ทดลองใช้แล้ว คุณนิคกี้ชอบอะไรในเลนส์ตัวนี้มากที่สุดคะ
อย่างที่ให้ความเห็นไปในข้อที่แล้ว มันมีความชอบหลายอย่างระหว่างการใช้งาน แต่ที่ชอบมากที่สุดคงนี้ไม่พ้นการละลายฉากหลังและโบเก้ของ Nour Tiplet นอกจากที่ให้เลือกหลากหลายแบบ (classic, soft และ bubble) และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโบเก้เป็นรูปทรงต่าง ๆ แล้ว จุดที่สำคัญคือโบเก้ที่ชัดเจนเกิดขึ้นได้ง่ายและชัดแม้เราจะใช้ f4 หรือ f5.6 (ยิ่ง f กว้างยิ่งชัดและมีสวยงาม) โบเก้คลีนใสเต็มวง เป็นโบเก้ที่มีความสมบูรณ์ ช่วยขับให้แบบหรือ subject ของเราโดดเด่น และได้ภาพที่แตกต่างแต่สวยงาม มีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร อันเป็นคอนเซ็ปต์สำคัญของ Lomography ที่มุ่งสร้างสรรค์
คุณนิคกี้ได้นำเลนส์ไปถ่ายในหลากหลายสถานการณ์เลย สำหรับการถ่ายภาพพอร์ทรทตอนกลางคืนมีความท้าทายหรือความยากง่ายอย่างไรบ้างคะ
ง่ายกว่าที่คิดมากครับ อย่างที่กล่าวแล้วว่าด้วยความหนืดนิด ๆ ของวงแหวนโฟกัส เมื่อใช้ร่วมกับ Peaking ของกล้องรุ่นใหม่ การโฟกัสไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ส่วนใหญ่ผมจะถ่ายระหว่างที่ f4 และ f2.8 ซึ่งด้วยความที่วงแหวนปรับ f ก็เป็นแบบหมุนอิสระ เราสามารถขยับ f ในระหว่างที่นี้ได้อย่างคล่องตัว ผมได้ทดลองโฟกัสด้วย f กว้างสุดเพื่อขับศักยภาพของโบเก้ที่สวยงาม โดยส่วนตัวแม้ความชัดไม่ได้คมกริบ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ทำให้การถ่ายพอร์เทรทในย่านที่มีแสงสีในตอนกลางคืนเป็นเรื่องที่สนุกมาก ได้ภาพที่ถูกใจ และนำไปทำโทนเพิ่มเติมได้อย่างหลากหลาย
ชอบโบเก้ไหนมากที่สุดระหว่าง classic, soft หรือ bubble เพราะอะไรคะ
ส่วนตัวชอบแบบ classic ครับ อาจเป็นความชอบส่วนตัว เอาไปแต่งโทนต่อได้ภาพที่ถูกใจ แต่ bubble กับ soft ก็มีประโยชน์ครับ อาจจะเหมาะกับแต่ละสถานการณ์และความต้องการของช่างภาพ
สุดท้ายแล้ว คุณนิคกี้มีคำแนะนำสำหรับคนที่อยากเลนส์ตัวนี้ไปลองใช้มั้ยคะ
ถ้าคุณชอบความสวยงามที่มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง คุณชอบเล่นกับโบเก้ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ผมอยากแนะนำให้ลอง Nour Tiplet จาก Lomography ตัวนี้ คุณจะได้สิ่งนั้นแน่นอน พร้อมของแถม คือความสวยงามของดีไซน์ของเลนส์ ความเท่ห์แบบมีสไตล์ เมื่อคุณมีเลนส์ตัวนี้ห้อยอยู่ที่คอของคุณ
ขอบคุณคุณนิคกี้ที่มาแบ่งปันประสบการณ์และแนวคิดในการถ่ายภาพด้วยเลนส์ Nour triplet V 2.0/64 Bokeh Control Art กับเราในวันนี้นะคะ! สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจถ่ายภาพพอร์เทรทและชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม อย่าลืมไปกดไลก์เพจ Nicky Only FILM บน Facebook เพื่อติดตามผลงานใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจจากคุณนิคกี้ด้วยนะ รับรองว่าจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพเพียบ! 😊
เขียนโดย aomschll เมื่อ 2024-09-22 ในหมวด
ไม่มีความคิดเห็น