LomoAmigo: เปิดโลกการถ่ายภาพฟิล์มของอิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ (500daysofimage) ผ่านกล้อง Lomomatic 110
Share Tweetในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างรวดเร็ว อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ ยังคงเลือกจะเดินทางย้อนกลับไปสู่ความงดงามของการถ่ายภาพฟิล์มตั้งแต่ตอนที่ได้กล้องตัวแรกจากคุณพ่อในสมัยมัธยม และยังคงเดินหน้าทดลองสิ่งใหม่ ๆ ผ่านผลงานในเพจที่ชื่อ 500daysofimage ซึ่งครั้งนี้อิมเมจจะพาทุกคนไปสนุกกับการทดลองใช้กล้อง Lomomatic 110 เป็นครั้งแรกด้วยนะ
นอกจากชุดภาพสุดพิเศษแล้ว บทสัมภาษณ์นี้จะพาทุกคนไปสัมผัสตัวตน แรงบันดาลใจ และความสุขที่อิมเมจค้นพบผ่านการถ่ายภาพฟิล์ม มาติดตามอ่านกันได้เลย! 📸✨
รู้จัก ‘การถ่ายภาพฟิล์ม’ ครั้งแรกตอนไหน
ตอนม.ปลายค่ะ อิมไปค้นเจอกล้องเก่าของพ่อค่ะ เป็นกล้อง Nikon F-301 + Nikkor 50 F1.8 ครบเซตเลย ถือเป็นกล้องตัวแรกในชีวิตเลย (ทั้งฟิล์มและดิจิทัลเลยนะคะ)
น่าจะปี 2013 ม้วนแรก Kodak Colorplus 200 ตอนนั้นม้วนละ 87 บาทเองง ถูกมากกกกก ช่วงนั้นยังไม่ใช้ Google Drive กันแพร่หลายเลย ล้างแล้วต้องใส่แผ่น CD/Thumb Drive อิมก็เลยอัดมาด้วยจะได้ดูง่าย ๆ คุ้น ๆ ว่าแผ่นละ 2.50 ตอนนี้กี่บาทแล้วน้า
ที่มาของชื่อ ‘อิมเมจ’ มีจุดเชื่อมโยงกับเรื่องการถ่ายภาพรึเปล่า
จริง ๆ เชื่อมไปทางเจ้าแม่กวนอิมมากกว่าค่ะ555555 คือแม่อิมชื่อเอ๋ ขึ้นต้นด้วย อ.อ่างงี้ พอเค้าจะตั้งชื่ออิม เค้าก็พูดชื่อ อ.อ่าง ไปเรื่อย ๆ แล้วอิมมาดิ้นตรงชื่ออิมพอดี แล้วที่บ้านก็นับถือเจ้าแม่กวนอิมกันด้วยก็เลยตกลงเป็นชื่อนี้ ต่อมาพอเข้าอนุบาลก็กลายเป็น 'อิมเมจ' ได้จากครูสอนวิชาอังกฤษที่เป็นคนต่างประเทศเค้าเติมให้ ถือว่าบังเอิญนะคะเนี่ยที่โตมาแล้วชอบถ่ายรูป :)
จุดเริ่มต้นของ ‘500 Days of Image’
อิมชอบหนังเรื่อง 500 Days of Summer มาก ๆ ค่ะ อินมากก ชอบสี ชอบทางภาพ ชอบชุด ชอบมู้ด ชอบการนำเสนอ และชอบนักแสดงพระนางด้วย เป็น FC Zooey Deschanel ด้วย แล้วก็ด้วยความที่หนังมันเล่าเรื่องไม่เรียงฉากตาม chronological order มันก็เหมือนกับเวลาเราถ่ายฟิล์มแล้วกว่าเราจะได้เห็นรูป กว่าจะได้โพสต์ มันไม่ทันที ไม่เรียงตาม timeline ชีวิต ก็เลยคิดว่าเอาเรื่องนี้แหละ แต่เวอร์ชั่นนี้อิมเป็นนางเองนะ จะเป็นคนเล่าเรื่องเอง55555
อยากให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเพลง ‘Film’ อะไรทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมา
พอเราคลุกคลีกับอะไรมาก ๆ มันก็จะซึมซับไปเองเนอะ อิมเชื่อว่าทุกคนที่ชอบถ่ายรูปจะพบว่า บางทีเรามองโลกเป็นเฟรมภาพถ่ายโดยไม่รู้ตัวขึ้นมาบ่อย ๆ เหมือนกันนะ มันชินเนอะ5555 แล้วการถ่ายฟิล์มเนี่ยมันมี add on อยู่ค่ะ เช่น ถ่ายได้จำกัด ไม่เห็นรูปทันที ง่าย ๆ ก็คือ “พลาดแล้วพลาดเลย” นี่แหละ มีช่วงนึงอิมละเมียดละไมกับภาพที่ถ่ายมาก จนเครียดเลยก็มีนะ สุดท้ายกดไม่ลง ไม่ได้ถ่ายก็หลายรูป แล้วก็มาคิดเสียดายทีหลัง จนอิมมีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่จอร์จ-ธาดา วาริช แล้ววันนั้นพี่จอร์จใช้กล้องฟิล์มล้วน ไม่มีดิจิทัลเลย พี่จอร์จกดแต่ละรูปแบบไม่ลังเลเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้กดรัวแบบนั้นนะ มันมีความมั่นใจในทุกช็อตที่กด เชื่อในทุกเฟรมที่เลือกงี้อะค่ะ วันนั้น inspire อิมมาก แล้วอิมเปลี่ยน approach ในการถ่ายรูปเลย แล้วหลังจากนั้นหลายปี พอเราชินซึมซับจุดนี้มากพอมันก็เกิดเพลง Film ขึ้นมาค่ะ
ทำไมถึงเลือกถ่ายภาพฟิล์มในยุคดิจิทัล
อืมมนั่นน่ะสิ ตอบแบบ cliché เลยได้ไหมนะ อิมว่าฟิล์มมันมีชีวิตค่ะ เราควบคุมอะไรไม่ได้มาก ถึงจะใช้กล้อง SLR แล้วปรับเองหมดมันก็ยังมีส่วนประกอบที่เราคุมไม่ได้อยู่ดี อิมชอบความไม่ต้องรู้ไม่ต้องเห็นตรงนั้นนะ เจอกันอีกทีล้างฟิล์มเลย แต่ก็เจ็บมาหลายม้วนเหมือนกัน ฟิล์มใสแจ๋วเลยก็มี5555 ถ้ารับเป็นงานก็ต้องพกอย่างน้อย 2 ตัว อาจจะฟิล์มคู่ หรือฟิล์ม 1 ดิจิทัล 1 กันเหนียวไว้ แต่ถ้าถ่ายเป็น passion project ก็ลุ้น ๆ ดีค่ะ ได้ฝึกทำใจดูใจตัวเองด้วยเวลาเจอสถานการณ์ต่าง ๆ 5555
ได้ลองใช้ฟิล์ม 110 ครั้งแรกแล้ว ผ่านกล้อง Lomomatic 110 เป็นอย่าไงรบ้าง
สนุก! ชอบมากค่ะ ใส่ฟิล์มง่ายมาก55555 เบาด้วยย ได้ถ่ายแมว ถ่ายเพื่อน ถ่ายงานแต่ง ถ่ายงานคอนเสิร์ต ถ่ายวิว ถ่ายข้างทางตอนเดินเล่น ถ่ายเซลฟี่ :)
ปกติแล้วถ่ายภาพแนวไหน หรือมองหา subject อะไรเป็นหลัก
ปกติแล้วอิมน่าจะใกล้แนว street สุดค่ะ subject ที่ตั้งใจมองเลยไม่มีค่ะ มีแต่ที่เห็นแล้วอดใจไม่ได้ทุกทีก็คือแมว5555 แต่ที่เหลือก็ตามเพลง 'Film' เลยค่ะ ถ้ารู้สึกกับอะไรก็จะถ่ายเก็บไว้ แค่นั้นเลยย
ชอบภาพไหนมากที่สุดจากรูปทั้งหมด เพราะอะไร
ภาพนี้เลยค่ะ ออกตัวก่อนว่าชอบฟิล์ม Metropolis มาก ๆ อยู่แล้ว ใช้ format 35 ประจำเลยค่ะ แล้วจากการลองถ่ายมาเรื่อยอิมรู้สึกว่า Metropolis ถ่ายพวกต้นไม้ ธรรมชาติไรงี้สวยมากค่ะ แล้วได้โอกาสไปเขาใหญ่พอดีเลยเก็บม้วนนี้ไว้ถ่ายที่นั่น ไม่ผิดหวังเลยค่ะ 💚
ภาพส่วนมากจะเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวัน มีเหตุการณ์อะไรสนุก ๆ ระหว่างถ่ายภาพชุดนี้ เล่าให้พวกเราฟังไหม
สนุกสุดคือม้วนแรกและม้วนสุดท้ายค่ะ เพราะว่าถ่ายกับเพื่อนสนิท55555 ม้วนแรกคือวันที่เอ๊ะเอาการ์ดงานแต่งของพี่ชายมาแจก และม้วนสุดท้ายคือวันงานแต่งค่ะ เจ๋งมาก!
คิดว่าการถ่ายภาพให้อะไร หรือเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตบ้าง
อิมคิดว่าการถ่ายภาพเนี่ยทำให้อิมได้มองโลกอีกแบบนึง บางเฟรมก็ทำให้อิมได้เห็นใจตัวเองผ่าน viewfinder เลยนะ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อิมได้ใช้เวลากับตัวเองคนเดียว แบบไม่ฟุ้งซ่าน และไม่เหงาด้วย แล้วอิมว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สงบ ให้เราได้ slow down บ้าง พักผ่อนจิตใจได้ แล้วยังได้ของแถมเป็นภาพถ่ายโดยอิมที่มีภาพเดียวในโลกอีกนะ! Photography is like a vacation for your mind and the pictures you get are the souvenirs!
ถ้าให้เลือก 10 ข้อ Golden Rule ของ Lomography คิดว่าตรงกับข้อไหนมากที่สุด
ข้อ 3 Lomography is not an interference in your life, but part of it ค่ะ
ภาพที่อิมมักจะชอบที่สุด คือภาพที่ไม่ได้แพลนไว้ก่อน ไม่ได้คิดเยอะเกิน พวกภาพ candid คือภาพที่มันเป็นเหตุการณ์จริงเรื่องราวจริง อิมชอบเรียกว่าขโมยถ่าย5555 คือเราขโมยช็อตนี้มาจากชีวิตเรา spontaneity is the key! แบบเรากดถ่ายภาพนี้ก็เพราะเรารู้สึกกับ moment นี้นะ
สุดท้ายแล้ว มีอะไรอยากฝากถึงแฟนคลับและเพื่อน ๆ ชาวโลโม่ไหม
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม และอ่านมาถึงตรงนี้นะคะ 💚 ยินดีและดีใจที่เราได้รู้จักกันผ่านภาพถ่ายค่ะ แล้วก็ขอฝากเพลง 'Film' ได้ไหมคะ5555 จะฝากท่อนนึงในเพลงละกันน “หากว่ารู้สึกกับอะไร จะถ่ายมันเก็บไว้ จากวันนี้ไป จะไม่กลัวอะไร :)” ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการถ่ายภาพค่ะ 🤩
ขอบคุณคุณอิมเมจที่มาร่วมแชร์แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพกับพวกเราด้วยนะคะ ติดตามผลงานของคุณอิมเมจเพิ่มเติมผ่านทาง Instagram , Facebook และ YouTube :)
ไม่มีความคิดเห็น