Lomography’s 10 Golden Rules Challenge (ตอนที่ 2)
Share Tweetกลับมาอีกครั้งกลับตอนที่ 2 ของ 10 Golden Rules Challenge ที่เราได้มอบภารกิจให้กับช่างภาพจากคอมมิวนิตี้ทั่วโลก โดยให้ถ่ายภาพตามโจทย์กฎทอง 10 ข้อของ Lomography แล้วอัปโหลดภาพผ่านทาง LomoHomes พร้อมติดแฮชแท็ก #goldenrulechallenge บอกเลยว่าภาพออกมาหลากหลายรูปแบบมาก ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยความทรงพลัง ความแปลกใหม่ และความพิเศษเฉพาะตัว
บทความตอนที่ 1 เราได้พาทุกคนไปชมภาพถ่ายจากกฎข้อที่ 1-5 ส่วนในบทความนี้ เราจะนำเสนอภาพจากช่างภาพโลโม่อีก 5 คน ผ่านฟิล์ม LomoChrome Metropolis 35 มม.
กฎข้อที่ 6 – ไม่ต้องคิด แค่ถ่ายให้สะใจ
สำหรับการทดลองนี้ ช่างภาพ @FEIFAIN ได้เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้มากกว่าเดิมโดยการถ่ายภาพซ้อน, เพิ่มแสงรั่ว และมีเงาบังในบางมุม โดยใช้กล้อง La Sardina 35 มม. ซึ่งเป็นกล่องที่มีน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย
คำว่า “ไม่ต้องคิดเยอะ” เหมาะกับสไตล์การถ่ายภาพของผมมาก [. . .] ปกติผมก็จะถ่ายด้วยแนวคิดนี้ สำหรับภารกิจที่ได้รับมา ผมก็ถ่ายตามสัญชาตญาณเลย ผมพยายามพลิกกล้องไปมาและถ่ายภาพซ้อนซ้ำๆ ทำให้ได้ภาพที่น่าทึ่งมากๆ"
“ผมไม่ได้ใช้กล้อง La Sardina 35 มม. มานานแล้ว หลังจากที่ได้กลับมาลองใช้ ก็ยังรู้สึกว่าสะดวกและน่าสนใจเหมือนเดิม และผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นที่พอใจมาก มีความสุขสุดๆ"
Rule 7 – ถ่ายให้เร็ว
“บางครั้งผมรู้สึกตันๆ เวลาถ่ายภาพ แต่กฎนี้ทำให้ไม่ต้องคิดเยอะ และถ่ายภาพสิ่งที่ชอบได้แบบสบายใจ”
ช่างภาพชาวญี่ปุ่น @ZEKIPHONE ได้เก็บภาพช่วงเวลาอันเร่งรีบในย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโยโกฮาม่าออกมาได้อย่างไม่เหมือนใคร โดยครั้งนี้เขาเลือกใช้กล้อง Lomo LC-A+ ที่เขาไว้ใจเพื่อเก็บภาพบรรยากาศผ่านโจทย์ที่ท้าทาย ในตอนแรกเขาคิดไม่ออกเลยว่าจะถ่ายอะไร แต่เขาก็เลือกเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง จนทำให้ภาพที่ได้ออกมาน่าสนใจมากๆ
"ก่อนอื่นผมต้องทำความเข้าใจว่าคำว่า "เร็ว" สำหรับผมหมายถึงอะไร ผมจะให้คำนิยามว่า "การบันทึกช่วงเวลาที่สำคัญให้ทัน" แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับโชคด้วยถึงจะทำให้เราจับภาพ "ช่วงเวลาที่สำคัญ" ได้ ผมเลยเลือกถ่ายภาพที่มันดึงความสนใจของผม มีภาพถ่ายมากมายเลยที่พอกลับมาดูแล้วทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ แต่หวังว่าพวกคุณจะเห็นความสำคัญของการถ่ายภาพ "ช่วงเวลาสำคัญ" ของผมจริงๆ"
Rule 8 – ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคุณจะถ่ายได้อะไรมาบ้าง
“เป็นกฏที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกสนานที่แท้จริง ซึ่งมันเข้ากับสไตล์การถ่ายภาพของผมพอดี ที่จะเน้นความสนุกเป็นอันดับแรก ผมชอบลองเทคนิคใหม่ๆ หรือหาหากล้องฟิล์มแปลกๆ กล้องฟิล์มนอกกระแสมาลองเล่นบ่อยๆ หลังจากได้อ่านรายละเอียดของกฏนี้มันทำให้ผมอยากหยิบกล้องแล้วออกไปข้างนอกทันทีเลยครับ”
@AMP_PUTTIPONG เก็บภาพถ่ายสุดสนุกในมุมมองแปลกตา ทั้งภาพถ่ายสถาปัตยกรรมและภาพถ่ายธรรมชาติ ซึ่งคุณแอมป์ได้แสดงให้เราเห็นว่าเลนส์ฟิลอายน่าสนใจแค่ไหนผ่านภาพถ่ายชุดนี้
“กล้องตัวนี้ (Fisheye No.2 35 มม.) สามารถถ่ายภาพซ้อนได้ด้วย มันยิ่งทำให้การถ่ายภาพของผมสนุกมากขึ้นไปอีก เพราะผมก็ชอบการถ่ายภาพซ้อน ในระหว่างการถ่ายภาพ มันก็จะมีความคิดเรื่องซีนในการถ่ายภาพซ้อนผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลา สนุกดีครับ”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้กล้องฟิล์มฟิชอาย หลายๆ ภาพหลังจากถ่ายออกมาแล้ว เซอร์ไพรส์กับภาพที่ได้ครับ แปลกตาดี และหลายภาพก็ออกมาตามที่ตั้งใจเอาไว้ รวมๆ แล้วชอบภาพจากชุดนี้ทั้งหมดครับ”
Rule 9 – และคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้หลังจากถ่ายเช่นกัน
ในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเรื่องยากที่ช่างภาพชาวจีนจะออกไปถ่ายภาพตามท้องถนนได้ตามปกติ เราจึงขอให้ช่างภาพจากคอมมิวนิตี้ชาวจีนกลุ่มหนึ่งลองค้นหาภาพถ่ายเก่าๆ ที่สื่อถึงกฎทองข้อนี้ แล้วลองรวบรวมภาพที่ชอบบางส่วนมาให้พวกเราได้ชมกัน
Rule 10 – ไม่ต้องสนใจกฎทั้งหมด
สำหรับกฎข้อสุดท้ายและเป็นข้อที่สำคัญที่สุดนี้ เราได้ชวนช่างภาพในคอมมิวนิตี้ที่มากความสามารถอย่าง @HEREISCLOUDLAND จากเกาหลีใต้ และ @WAGGRAD00 จากสหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่ใช้ความสุขในการนำทางเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด
นี่คือสิ่งที่ @HEREISCLOUDLAND ได้บอกเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งนี้:
"ฉันไม่ได้ถ่ายรูปเพื่องานศิลปะ แต่เพราะฉันถ่ายรูปเลยถูกเรียกว่าศิลปิน ฉันต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าสิ่งส่วนงามที่ฉันสร้างขึ้นนั้น 'ไร้ประโยชน์'
"ฉันไม่ได้ถ่ายรูปเพื่อสร้างงานศิลปะ แต่เพราะฉันถ่ายรูปเลยถูกเรียกว่าศิลปิน ฉันต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าสิ่งสวยงามที่ฉันสร้างขึ้นนั้น 'ไร้ประโยชน์' และสื่อว่าความสวยงามในสังคมนี้มักถูกมองข้าม ราวกับว่าไม่สำคัญถ้าไม่ได้มีความหมาย ฉันแค่ถ่ายรูปสิ่งที่ชอบ สิ่งรู้สึก มันเหมือนได้เต้นหรือการทำสมาธิ และกฎทองเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่าการถ่ายรูปคือ 'ความไม่สมบูรณ์ที่สมบูรณ์' นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกคนล้วนมีความน่าสนใจ เหมือน 'มันเป็นกฎ ที่ไม่ใช่กฎ'"
"เพื่อนสนิทและฉันชอบฟิล์ม Lomo (LomoChrome Metropolis) มากๆ ฉันเดินตรงไปที่สวนสาธารณะ มีแนวคิดคร่าวๆ ว่า 'อยากให้มาสนุกด้วยกัน ทั้งวิ่ง กลิ้ง และทำท่าแฮนด์สแตนด์ ไม่ต้องสนว่าคนอื่นจะมองยังไง'”
"พวกเราเพิ่งเดินเล่นและหัวเราะสนุกสนานกันเป็นชั่วโมงเลย รู้สึกสนุกที่ได้สัมผัสพื้นขณะวิ่งบนคอนกรีตด้วยถุงเท้าแทนรองเท้า เมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าเดินทางผ่านแสง, เลนส์, ฟิล์ม และสายตาของฉัน ก็รู้ได้เลยว่าโลกทั้งใบกำลังต้อนรับฉัน มีความสุขมากๆ ทั้งตอนถ่ายและตอนได้เห็นรูปเลย"
ช่างภาพคนสุดท้าย @WAGGRAD00 มาจากชิคาโก ด้วยความที่เธออยากจะมุ่งเน้นไปที่การถ่ายรูปในช่วงเวลาธรรมดาแบบเรียบง่าย เธอจึงตัดสินใจถ่ายรูปในระหว่างที่เดินไปทำงานในช่วงเช้าของวันหนึ่ง
>"การถ่ายภาพอนาล็อกนั้นน่าทึ่งมาก ในขณะเดียวกันก็ราคาแพง บางครั้งฉันจึงต้องเลือกว่าจะถ่ายอะไรบ้างและถ่ายกี่ใบ เพราะจะได้ไม่เกินงบที่ตั้งไว้สำหรับค่าฟิล์มและค่าล้างฟิล์ม [. . .] กฎทองนี้ให้อะไรใหม่ๆ กับฉันมาก ฉันต้องการแค่อยากจะเก็บภาพและสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ ไม่อยากคอยมานับว่าถ่ายไปกี่รูปแล้ว ไม่ต้องคิดมากกว่าจะได้ถ่ายได้แต่ละรูป ฉันต้องการเพียงแค่ความสนุกและความสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้ว กฎข้อนี้สนับสนุนให้ฉันออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระและสนุกจริงๆ!”
@WAGGRAD00 บอกเราว่าฟิล์ม LomoChrome Metropolis เข้ากับเมืองชิคาโกได้อย่างลงตัว พอดูรูปแล้วก็เห็นด้วยมากๆ เลย
“ฉันรักภาพจากฟิล์มม้วนนี้!! นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้รู้สึกชอบภาพจากทั้งม้วน! ฉันเคยถ่ายฟิล์ม LomoChrome Metropolis มาหลายครั้งแล้ว ทั้งรูปแบบ 35 มม. และมีเดียมฟอร์แมต และผลออกมาค่อนข้างดีเลย เคยคิดว่าเวลาใช้ฟิล์มประเภทนี้ต้องถ่ายกลางแดดจะดีที่สุด แต่รู้แล้วว่าคิดผิด ฉันถ่ายม้วนนี้ในวันที่มีเมฆมาก/ฝนตก หรือตอนที่มีแดดเป็นช่วงๆ [ . . .] ชอบภาพที่มีเส้นๆ เป็นพิเศษ และภาพที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา บอกเลยว่ารักภาพจากม้วนนี้มาก!"
เราต้องขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในโจทย์การทดลองถ่ายภาพครั้งนี้ โดยทุกคนสามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมได้จาก LomoHome ของแต่ละคนได้เลย
คุณชอบกฎทอง? ข้อไหนมากที่สุด มาแบ่งปันกันที่คอมเมนต์ด้านล่างนี้ได้เลยนะ : )
ไม่มีความคิดเห็น