Lomo LC-A+: กล้องที่เหมาะกับการถ่ายภาพ ทั้งในกลางวันและกลางคืนสำหรับคุณ

ฉันถูกดึงดูดความสนใจจากภาพถ่ายบนเว็บไซต์ lomographyasia.com ที่ถ่ายจากกล้อง LC-A+ จนต้องซื้อกล้อง LC-A+ มาใช้แล้วหนึ่งตัว และในตอนนี้มันก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดของฉันไปเสียแล้ว

กล้อง Lomo LC-A+ นั้นไม่ใช่ของแปลกสำหรับเราแต่อย่างใดเลยค่ะ มันมีค่า ISO ตั้งแต่ 100, 200, 400, 800, และ 1600 ให้เราสามารถปรับตั้งค่าได้ ซึ่งค่า ISO 800 และ 1600 นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้เหนือกว่ากล้อง LC-A ตัวดั้งเดิม ควบคู่กับรูรับแสงที่กว้างถึง F2.8 ซึ่งเหมาะสมกับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนมาก!

สำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ ระบบการปรับตั้งค่าระยะโฟกัสค่อนข้างที่จะเป็นนามธรรมดูสักนิด แต่คุณก็จะชินไปกับมันเองหลังจากที่ใช้ไปสักระยะหนึ่ง (ถึงแม้ว่าคุณจะปรับระยะผิด แต่ก็สามารถที่จะได้ผลลัพธ์ที่สุดยอดได้อย่างไม่คาดคิดเลยทีเดียว!)

0.8 เมตร – ระยะเกือบจะเท่ากับความยาวแขนของคุณผู้หญิง ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพตัวเองแบบสะท้อนกระจกอยู่นั้น คุณแค่เปลี่ยนระยะโฟกัสมาเป็น 0.4 เมตร (ครึ่งหนึ่งของความยาวแขน) เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ภาพถ่ายที่อยู่ในระยะโฟกัสพอดีแล้ว
1.5 เมตร – ประมาณ 5-7 ก้าว
3 เมตร – อะไรก็ตามที่อยู่ห่างออกไปเกินระยะ 1.5 เมตร แต่น้อยกว่าระยะอินฟินิตี้
ระยะอินฟินิตี้ – เป็นการปรับตั้งค่าระยะโฟกัสที่เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

กล้อง Lomo LC-A+ นั้นมีการออกแบบออกมาได้เป็นอย่างดี ด้วยการที่มีหลอดไฟสีแดงอยู่ด้านใน viewfinder เมื่อแสงไฟสว่างขึ้น ไฟดวงซ้ายหมายความว่ากล้องอยู่ในสถานะพร้อมทำงาน และไฟดวงขวาหมายความว่าเรากำลังถ่ายภาพอยู่ในสภาพแสงน้อย ซึ่งกล้องจะใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำเพื่อให้สอดคล้องกันกับการเปิดรับแสง เราควรจับกล้องให้นิ่งเข้าไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มือสั่น! และยังมีช่องเล็กๆอยู่บนฝาหลังของกล้องเพื่อจะบอกว่าฟิล์มชนิดใดที่กำลังใช้งานอยู่ มันช่างเหมาะกับคนโก๊ะๆอย่างฉันเสียจริง!

นอกจากนี้ กล้อง Lomo LC-A+ ก็มีชื่อเสียงมาจาก vignette ของตัวมันเอง ซึ่งขอบภาพที่มืดดำจะช่วยทำให้ตัวแบบมีความโดดเด่นขึ้นมา และยังช่วยเพิ่มความรู้สึกของภาพถ่ายให้มากขึ้นอีกด้วย และมันยังมีสวิทช์ MX ที่จะช่วยให้ถ่ายภาพซ้อนได้อย่างง่ายดาย

ตัววัดแสงของกล้อง Lomo LC-A+ จะอยู่ใกล้ๆกับสวิทช์ปรับ ISO ซึ่งมันมีความแม่นยำค่อนข้างมาก ถ้าหากคุณกำลังทำการถ่ายภาพในสภาพแสงที่มืด คุณสามารถที่จะใช้นิ้วมือของคุณปิดมันเอาไว้หรือจะใช้กาวดินน้ำมันมาช่วยก็ได้!

นอกจากตัวกล้องจะมีขนาดเล็กกะทัดรัดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้มันกลายเป็นกล้องที่ฉันต้องพกติดตัวไปด้วยทุกวัน ก็เพราะมันจะทำให้ฉันประหลาดใจได้โดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ในตอนที่ฉันใช้ฟิล์มเนกาทีฟสี, ฟิล์มสไลด์ หรือ ฟิล์มขาวดำ (อย่าคิดนะคะว่า กล้อง LC-A+ จะใช้งานได้แต่เฉพาะกับฟิล์มสไลด์ล้างครอสเท่านั้น)!

บทสรุป: กล้อง Lomo LC-A+ มีน้ำหนักที่เบา, สะดวกในการใช้งาน, เหมาะกับการถ่ายภาพทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ไม่ว่าเราจะใช้ฟิล์มประเภทใด ก็จะได้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจทุกครั้งไป มันคือเพื่อนคู่หูในการถ่ายภาพที่ดีที่สุดของฉันไปแล้วนอกเหนือไปจากกล้อง Olympus XA ของฉันค่ะ!

เขียนโดย elliechung7 เมื่อ 2012-05-22 ในหมวด #gear #review #classic #hong-kong #plus #films #asia #cross-processing #lomo-lc-a #hk #lca #lc-a #analogue-cameras #color-negatives #user-review #35mm-films #color-slides

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ