ไม่มีอะไรจะเหมาะกับการออกทริปมากกว่า Olympus Trip 35

1

กล้องตัวนี้เป็นกล้องคลาสสิคที่พ่วงมากับชื่อเสียงอันเป็นตำนาน ทำให้การถ่ายภาพในแบบ SLR เป็นเรื่องง่าย และยังเป็นกล้องที่เหมาะสำหรับพกพาไปไหนต่อไหนกับคุณได้สบายๆ สมกับที่เป็นกล้อง grab & go อย่างแท้จริง

หลังจากรื้อๆ ค้นๆ กล่องเก็บฟิล์มเนกาทีฟเก่าๆ ที่ผมเคยถ่ายไว้ ผมก็พบกับฟิล์มส่วนหนึ่งที่เป็นฟิล์มม้วนแรกๆ ที่ผมใช้ตอนที่เริ่มถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ตอนนั้นผมยังใช้ฟิล์มสี แต่ตอนนี้ผมมักจะถ่ายแต่ภาพขาว-ดำ เท่านั้น

ผมตัดสินใจสั่งซื้อ Trip 35 จาก e-bay หลังจากอ่านเจอข้อดีมากมายของกล้องตัวนี้จาก flickr รวมถึงรีวิวต่างๆ ในเว็บไซต์นี้ ผมจำไม่ได้ว่าซื้อมันมาในราคาเท่าไหร่ แต่จำได้แค่ว่าไม่แพงมาก น่าจะแค่ประมาณ 6 ปอนด์ เท่านั้น ตอนนี้น้องสาวผมก็ซื้อมาแล้วตัวหนึ่งสำหรับใช้ในทริปท่องเที่ยวของเธอ (ซึ่งเราจะเจอคำว่า “ทริป” เต็มไปหมดในรีวิวนี้แน่นอน) แต่น้องผมซื้อมาในราคาถึง 18 ปอนด์ ผมคิดว่าราคาที่สูงขึ้นนี้น่าจะเกิดจากความจริงที่ว่า ผู้คนเพิ่งจะรู้ถึงข้อดีต่างๆ ของกล้องนี้

เมื่อกล้องส่งมาถึงที่บ้าน ผมก็ตรวจสอบการใช้งานพื้นฐานที่จำเป็นทั้งหมดของกล้อง Trip 35 ซึ่งคือ กดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่งเพื่อดูว่าตัวเปิด-ปิดช่องรับแสงขยับได้ตามปกติ และต้องดูให้ดีๆ ด้วยว่าธงสีแดงซึ่งเป็นเอกสักษณ์ของกล้องนี้ได้แสดงอยู่ในช่องมอง (viewfinder) เรียบร้อยแล้วหรือยัง ถ้าขณะนั้นมีแสดงไม่พอให้ใช้โหมด “A” โดยมีวีธีการง่ายๆ คือ ปิดฝาครอบเลนส์ ลองมองเข้าไปในช่องมอง และกดชัตเตอร์ จากการตรวจสอบทั้งหมดกล้องของผมยังทำงานได้ดี และผมก็พร้อมที่จะเดินทางแล้ว

และนี่คือคุณสมบัติของกล้อง Trip 35 ซึ่งคุณอาจจะรู้อยู่แล้วก็เป็นได้:

Focus: ระบบ manual ตาม scale มองเห็นได้จากช่องมอง
Lens: 40mm f/2.8 Olympus D. Zuiko, 4 elements, three groups
Close Focus: 2.9’ (0.9m)
Diaphragm: two bladed, diamond-shaped, stopping down to about f/22
Shutter: 1/40 หรือ 1/200 กล้องจะเลือกให้อัตโนมัติ และไม่มี bulb setting
Meter: Selenium cell รอบเลนส์ (รวมเข้ากับ filter factors ใดๆ อัตโนมัติ)
Exposure: Program automatic (A) และรูรับแสงแบบ fixed-aperture หากใช้แฟลช Note: ถ้่าคุณเลือกใช้รูรับแสงกว้างสำหรับใช้กับแฟลช และถ่ายภาพในที่ๆ สว่างมาก ชัตเตอร์จะไม่ทำงานแต่ให้เลือกความเร็วชัตเตอร์ไว้ที่ 1/40
Film Speed: 3 stops ตั้งแต่ ASA 25 – 400, ยกเว้น ASA 32
Filter Size: ขนาดเกลียว 43.5mm
Flash: Hot shoe และ PC terminal
Size: 4.912" W x 2.861" H x 2.269" D (124.77mm W x 72.67mm H x 57.62mm D)
Weight: 13.77 oz. (390.5g)

อย่างไรก็ตาม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวผม แฟนผม และเพื่อนของเธอมีทริปไปเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษกัน ผมหยิบเจ้า Trip 35 ไปด้วย ซึ่งขนาดของมันสามารถเอาใส่กระเป๋าใบใหญ่ได้อย่างพอดิบพอดี เพราะขนาดเลนส์ของมัน ผมพบว่ากล้องตัวนี้สามารถพกไปไหนมาไหนได้สะดวกจริงๆ แล้วก็ไม่เป็นที่สังเกตของผู้คนเท่าไรนัก แต่ถ้าเกิดมีใครสักคนเกิดสังเกตเห็นมันขึ้นมา พวกเขาก็จะมองมันอย่างสนอกสนใจ และนี่คือตัวอย่างรูปจากทริปที่ลีดส์ของผม

สำหรับฟิล์มม้วนถัดมา ผมคิดว่าจะทดลองทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ดู ผมจึงใช้ฟิล์ม redscale แบบทำเองในการถ่ายภาพ เดิมทีมันเป็นฟิล์ม ISO 200 ดังนั้นผมเลยให้มันเป็นฟิล์ม redscale ISO 50 และนี่คือตัวอย่างบางส่วน

โดยรวมแล้ว กล้องตัวนี้มันเยี่ยมมากจริงๆ และผมคิดว่าทุกคนควรจะมีไว้ซักตัวหนึ่ง กล้องนี้ถูกผลิตออกมามากกว่า 5 ล้านตัว ผมจึงคิดว่าคุณน่าจะหามาไว้ในครอบครองได้ไม่ยากนัก เสร็จแล้วก็ใส่ฟิล์มอะไรก็ได้ลงไป และกล้องก็จะทำงานด้วยตัวมันเองอย่างมหัศจรรย์! มีสองสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับ Trip 35 คือ ข้อแรก ผมไม่ต้องใส่แบตเตอรี่ในกล้อง และข้อที่สอง คือ เลนส์กล้องเป็นเลนส์ Zuiko ซึ่งเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ผมเชื่อว่าระบบวัดแสงในกล้องมีความแม่นยำมากพอที่จะใช้ฟิล์มสไลด์ ซึ่งมันเข้ากันได้ดีมากๆ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวของผม ขอให้ถ่ายรูปกันต่อไป!

เขียนโดย brandkow93 เมื่อ 2012-07-22 ในหมวด #gear #street #review #colours #colour #olympus #olympus-trip-35 #david-bailey #sharp #redscaled

1 ความคิดเห็น

  1. sobetion
    sobetion ·

    กล้องตัวนี้ classic มากๆ อยากได้!!!!!!!!!!!!!!!!!!! T_T

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ