รวมเรื่องสั้นช่อการะเกด - หนังสือสบสังวาสสโมสร
5 13 Share Tweetความอาลัยต่อหนังสือช่อการะเกดกลายเป็นยาสั่งให้ผมถ่ายภาพทุกเล่มเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าครั้งหนึ่ง เราศรัทธาว่าอำนาจวรรณกรรมเปลี่ยนชีวิตได้!
สบ แปลว่า “พบกัน” , “ประสมเข้าด้วยกัน”
สบสังวาส แปลว่า “อยู่ร่วมกัน”
สโมสร แปลว่า “ที่ชุมนุมกัน” “ที่มารวมกัน”
สบสังวาสสโมสร จึงแปลว่า ที่มาชุมกัน เพื่อรวมกัน….(ทำงานเขียนงานประพันธ์ ในบริบทนี้)
ข้อความย่อหน้าข้างบนคือคำจำกัดความคำว่า “สบสังวาสสโมสร” ของสิงห์สนามหลวง หรือ สุชาติ สวัสดิ์ศรี ที่ให้ไว้กับคำๆนี้ ในหนังสือ ช่อการะเกด 9 – สบสังวาสสโมสร ซึ่งเขาเป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้กินเวลา 3 ทศววรษ
ณ ย่อหน้านี้ ขอคารวะให้กับความสวยงามภาษา ซึ่งสิงห์สนามหลวงคิดไว้อย่างสลักสลวยบรรจง
ใช่!…สบสังวาสสโมสร น่าจะเป็นคำจำกัดความได้เป็นอย่างดี สำหรับหนังสือต่อเนื่อง (Pocket magazine) ที่ชื่อว่า ‘ช่อการะเกด’ หนังสือรวมเรื่องสั้นที่ผมโปรดปราน จนต้องปลูกความปรารถนาไว้บนหน้ากระดาษทุกๆเล่ม
หนังสือช่อการะเกด ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะนักเขียนวรรณกรรมไทย ที่มีชื่อเสียงมากมาย – ชาติ กอบจิตติ, วินทร์ เลียววารินทร์, เดือนวาด พิมวนา, วิมล ไทรนิ่มนวล, มาลา คำจันทร์ และกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ เป็นอาทิ
สมควรแล้วที่หนังสือชุดนี้จะจำกัดความหมายไว้ว่าเป็นแหล่ง “สบสังวาสสโมสร” อันเลื่องลือ (ตามความเห็นส่วนตัวของผม)
หนังสือช่อการะเกดเดินทางสู่อ้อมกอดนักอ่านอย่างต่อเนื่อง โดยเล่มแรกวางแผงเมื่อพฤษภาคม 2521 ถึงเล่มสุดท้าย ลำดับที่ 55 ฉบับตีพิมพ์ที่สันปกว่า มกราคม-มีนาคม 2554
33 ปี!
อย่างไรก็ตาม หนังสือช่อการะเกดมีอาการกะพร่องกะแพร่ง-กะปลกกะเปลี้ย-กะปริบกะปอย และ กะเผลก อยู่บ้าง เพราะต้องเว้นวรรคตีพิมพ์หลายครั้ง
ครั้งแรก จากเล่ม 4 (กันยา 2523) ต่อเล่ม 5 (ตุลา 2532 ) – 9 ปีเต็ม! และครั้งที่ 2 ที่ต้องเว้นวรรค คือจาก เล่ม 41 (มกรา 2542) สู่เล่ม 42 (ตุลา 2550) – เกือบ 8 ปี!
ก่อนที่จะลาครั้งล่าสุด ครั้งที่ 3 ในฉบับมกราคม-มีนาคม 2554
ทวนเข็มนาฬิกากลับไปบนความหนุ่ม ผมบังเอิญสบตากับหนังสือช่อการะเกดเล่มหนึ่งในร้านหนังสือเก่าเมื่อประมาณปี 2547 และด้วยความชื่นชอบ (อาจจะถึงขั้นคลั่งไคล้) ผลักหลังให้ผมศึกษาประวัติความเป็นมาของหนังสือชุดนี้ จนกระทั่งผ่านไป 4 ปี ผมตามเก็บหนังสือเล่มที่เคยตีพิมพ์ ณ เวลานั้นจนครบถ้วน และมาตามอ่านต่อในยุคหลัง
ปัจจุบัน ช่อการะเกดหย่าขาดจากตีพิมพ์ฉบับใหม่แล้ว นับตั้งแต่เล่มลำดับที่ 55 และ ความอาลัยต่อหนังสือชุดนี้กลายเป็นยาสั่งให้ผมถ่ายภาพทุกเล่มเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าครั้งหนึ่ง ผมเชื่ออย่างศรัทธาว่า อำนาจวรรณกรรมเปลี่ยนชีวิตได้!
เพราะอย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลงานศิลปะแขนงนี้ และพลังอำนาจของมันยังแพร่ขยายไปยังศิลปการด้านอื่นๆ เช่น การถ่ายรูป…ฯลฯ
ความเศร้าเสียดายแทรกซึมอยู่ในความรู้สึกของผมที่หนังสือชุดนี้ต้องยุติบทบาทตัวเอง
ผมได้แต่แอบหวังลึกๆว่าช่อการะเกดจะกลับคืนสู่อ้อมแขนนักอ่านอย่างผมอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับ ชื่อเล่มลำดับที่ 55 เขียนไว้
จนกว่าจะพบกันใหม่ – ลาที แต่มิใช่ลาก่อน
ใช่!…จนกว่าจะพบกันใหม่ – ช่อการะเกด
เขียนโดย dakadev_pui เมื่อ 2012-10-15 ในหมวด #lifestyle #dakadev_pui-lca-thailand
5 ความคิดเห็น