หอบน้ำแก้บนที่ค่ายบางระจัน
6 8 Share Tweetเมื่อวันก่อนได้ผ่านเมืองสิงห์บุรี (17/07/2554) เนื่องจากแม่แฟนอยากที่จะไปหาบน้ำแก้บนที่ค่ายบางระจัน
การหอบน้ำแก้บนนั้นเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของคนที่นั่น ภายในค่ายบางระจันจะมี “สระน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ” ซึ่งมีความเชื่อว่าสระน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จนไม่มีใครกล้าตกปลา ชาวบ้านจึงเคารพบูชา เมื่อมีผู้คนบนบานสระน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ ภายหลังเมื่อสำเร็จต้องแก้บนด้วยการหาบน้ำถวายท่าน ข้างในค่ายจะมีบ่อน้ำเล็ก ๆ อยู่ 2 บ่อให้ชาวบ้านเดินไปตักแล้วหาบน้ำมาเทคืนที่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ บนบานไว้กี่หาบก็แก้ตามจำนวนที่บนบานไว้
ภายในวัดยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คือ “วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ” ซึ่งภายในประดิษฐานรูปปฏิมากรรมพระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นที่เคารพสักการะของชาวสิงห์บุรีโดยทั่วไป
เมื่อพูดถึงค่ายบางระจันคงขาดมิได้ นั่นก็คือเรื่องราววีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน ที่ตั้งค่ายสู้รบกับพม่า ซึ่งยกทัพมาตีถึง 7 ครั้งก็ไม่สำเร็จ จนพม่าต้องตั้งปืนใหญ่อีกฝั่งแม่น้ำเพื่อยิงเข้ามาในค่ายบางระจัน ชาวบ้านบางระจันไม่มีปืนยิงตอบโต้ จึงต้องขอทางกรุงศรีอยุธยาส่งปืนใหญ่มาช่วย แต่ทางกรุงศรีไม่กล้าส่งมาเพราะกลัวโดนปล้นปืนระหว่างทาง ชาวบ้านจึงต้องบริจาคของใช้ทองเหลืองมาหล่อเป็นปืน แต่เมื่อใช้งานได้ปืนก็แตกร้าว ชาวบ้านต้องหยัดยืนสู้กับพม่าด้วยอาวุธที่เหลืออยู่จนวันแรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปี พ.ศ.2309 ค่ายบางระจันถูกพม่าตีแตก
ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 17 กรกฎาคมพอดี ครบ 245 ปี ขอระลึกคุณงามความดีความสามัคคีที่ท่านทั้งหลายได้เสียสละครั้งนั้น แม้ว่าสุดท้ายเราจะต้องเสียกรุงศรีอยุธยาไปก็ตาม แต่อนุชนรุ่นหลังก็กอบกู้เอกราชชาติไทยคืนมาได้ ด้วยความดีเหล่านี้ทางราชการจึงได้สร้างรูปหล่อวีรชนหัวหน้าค่ายทั้ง 11 ท่านขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบต่อไป
6 ความคิดเห็น